คนที่ติดตามรถอเมริกันน่าจะรู้จักชื่อของ Dodge Charger เป็นอย่างดี นี่คือรถ Muscle Car ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ หลายคนรู้จักรถรุ่นนี้จากหนัง Fast & Furious ในหลาย ๆ ภาค ถึงแม้ว่า Charger ยุคหลัง ๆ จะแปลงร่างเป็นซีดาน 4 ประตูแต่มันก็ยังคงไว้ซึ่ง DNA ที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ ตอนนี้ Charger เจเนอเรชันที่ 8 เปิดตัวอย่างเป็นทางการพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่คือการเข้าสู่ยุคของการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า พร้อมกับการผสมผสานสไตล์ดั้งเดิมเข้ากับอนาคตอย่างลงตัว บทความนี้ MenDetails อยากชวนทุกท่านมาพบกับ Next-Gen Dodge Charger พร้อมกับดูว่า Muscle Car ไฟฟ้ารุ่นนี้มีสิ่งที่น่าสนใจอะไรซ่อนอยู่บ้าง
สไตล์แบบผสมผสานที่น่าดึงดูด
สิ่งที่ทำให้ Charger ใหม่น่าสนใจคือการผสมผสานสไตล์ที่ย้อนกลับไปในยุครุ่งเรืองของตัวเองช่วงปลายทศวรรษ 1960 ถึง 1970 เข้ากับรายละเอียดของยุคสมัยใหม่ผ่านงานดีไซน์ที่มีความเป็น Retro – Futuristic ซึ่งต้นแบบของดีไซน์นี้มีที่มาจากรถต้นแบบ Dodge Charger Daytona SRT Concept ที่เผยโฉมในปี 2022 รูปทรงตัวถังผสมผสานเส้นสายที่ไม่มากไม่น้อยเกินไปทำให้รถดูสวยงามและลงตัว ขณะเดียวกันก็ยังให้ความบึกบึนและดุดันอันเป็นจุดเด่นของ Muscle Car ได้ชัดเจนจากการออกแบบตัวถัง Wide Body พร้อมกับตำแหน่งของล้อที่ถูกดันไปยังจุดที่กว้างที่สุดโดยสมบูรณ์ ทำให้สามารถใส่ยางหน้า 305 และยางหลัง 325 ซึ่งเป็นชุดยางที่มีหน้ากว้างที่สุดเท่าที่ Dodge เคยใช้มา
นอกจากนี้ ด้านหน้าของรถยังโดดเด่นด้วยช่องระบายอากาศแบบ R-Wing อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งช่วยลดแรงต้านอากาศและเพิ่มสมรรถนะที่ความเร็วสูง ขณะเดียวกัน รายละเอียดต่าง ๆ บนตัวถังไม่ว่าจะเป็นแนวฝากระโปรง หลังคา สปอยเลอร์ท้าย ก็ยังช่วยเสริมประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์ให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี
ควบรวม Charger และ Challenger
Dodge Charger ใหม่มาพร้อมกับการเรียกชื่อแบบใหม่ที่ทางแบรนด์ได้กำหนดขึ้นเพื่อป้องกันการสับสน โดยโมเดลที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าจะใช้ชื่อว่า Charger Daytona และมี 2 รุ่นย่อยได้แก่ Daytona R/T กับรุ่นท็อป Daytona Scat Packส่วนโมเดลที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์สันดาปจะเรียกชื่อว่า Charger Sixpack
นอกจากนี้ Dodge Charger ใหม่ยังเป็นการควบรวม 2 โมเดลของ Dodge อย่าง Charger และ Challenger เข้าด้วยกัน ทำให้มันมีทั้งตัวถัง 2 ประตู และ 4 ประตูให้เลือก โดยหลังจากนี้ชื่อ Dodge Challenger จะสิ้นสุดที่โมเดลปี 2023 และไม่มีรุ่นใหม่มาแทนที่
Dodge Charger Daytona – The Muscle EV
Dodge Charger Daytona ได้ชื่อว่าเป็น Muscle Car ไฟฟ้ารุ่นแรกของโลก ขับเคลื่อนด้วยสถาปัตยกรรมไฟฟ้า 400V จ่ายพลังงานไฟฟ้าให้กับมอเตอร์คู่และขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นมาตรฐาน โดยรุ่น Scat Pack มากับพละกำลังสูงสุด 670 hp พร้อมแรงบิด 850 นิวตันเมตร สามารถทำความเร็วจาก 0 – 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.3 วินาที และวิ่งควอเตอร์ไมล์ได้ในเวลา 11.5 วินาที ขณะที่รุ่น R/T มากับพละกำลังสูงสุด 496 hp พร้อมแรงบิดสูงสุด 548 นิวตันเมตร โดยมีสมรรถนะเป็นรองเล็กน้อย ทำความเร็ว 0 – 100 กม./ชม. ได้ในเวลา 4.7 วินาที และวิ่งควอเตอร์ไมล์ได้ในเวลา 13.1 วินาที
Charger Daytona ทั้ง 2 รุ่นติดตั้งแบตเตอรี่ Lithuium Ion ความจุ 100.5 kWh ฟังดูเหมือนเยอะ แต่นี่คือรถ Muscle Car ที่ทาง Dodge มุ่งเน้นด้านพละกำลังแบรนด์มากกว่าเรื่องระยะทางขับขี่ที่ต้องทำได้มากเป็นพิเศษ โดยรุ่น Scat Pack สามารถวิ่งได้ไกลสุด 418 กม. ส่วน รุ่น R/T วิ่งได้ไกลสุด 510 กม. รถทั้ง 2 รุ่นรองรับการชาร์จเร็ว DC Fast Charge กำลังสูงสุด 350 kW สามารถชาร์จจาก 20% – 80% ได้ในเวลาประมาณ 27 นาที นอกจากนี้ ยังมาพร้อมระบบ Regenerative braking แบบปรับได้ 3 ระดับโดยใช้แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ซึ่งจะช่วยปรับฟีลลิ่งในการขับขี่ที่แตกต่างกัน
นอกจากขุมพลังไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงแล้ว Charger Daytona ทั้ง 2 รุ่นยังมีลูกเล่นใหม่ ๆ อีกหลายอย่าง อาทิ ปุ่ม PowerShot ที่จะเพิ่มกำลังของรถชั่วขณะเป็นเวลา 15 วินาที, โหมด Drag, โหมด Track, โหมด Drift, โหมด Donut, ฟังก์ชัน Race Prep, Line Lock, Launch Control รวมถึงระบบท่อไอเสียแบบ Fratzonic Chambered รุ่นแรกของโลก ช่วยให้ผู้ขับขี่สนุกกับรถได้หลากหลายอารมณ์ พร้อมกับเสียงท่ออันเป็นเอกลักษณ์แบบรถ Muscle Car แท้ ๆ
Dodge Charger Sixpack ขุมพลังสันดาปที่ยังหลงเหลือ
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คนไม่ปรารถนารถไฟฟ้ารู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อยคือ Charger Sixpack ที่มากับขุมพลังสันดาปแบบดั้งเดิม ตัวแรงรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ Hurricane 3.0 ลิตร Twin Turbo โดยแบ่งเป็น 2 เอาต์พุต ได้แก่ Sixpack HO 550 แรงม้า กับ Sixpack SO 420 แรงม้า ซึ่ง Dodge เองก็เคลมว่าเครื่องยนต์บล็อกใหม่นี้แม้ความจุจะน้อยแต่ก็ให้แรงม้าและแรงบิดที่ดีไม่แพ้เครื่อง HEMI อันเลื่องชื่อ พร้อมด้วยการขับขี่ที่ให้ความอารมณ์และความรู้สึกแบบรถ Muscle Car จริง ๆ
การออกแบบภายในแบบไดนามิก
ห้องโดยสารของ Dodge Charger ใหม่ถูกออกแบบให้ช่วยเสริมความรู้สึกเคลื่อนไหว ผสมผสานความทันสมัยและเป็นเอกลักษณ์ เส้นสายของคอนโซลหน้าได้แรงบันดาลใจมาจาก Charger ปี 1968 พร้อมด้วยพวงมาลัยทรงสปอร์ตและหัวเกียร์แบบ pistol-grip กึ่งกลางคอนโซลติดตั้งจอดิจิทัลขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบเชื่อมต่อสมัยใหม่ครบครัน และทำงานร่วมกับจอด้านหน้าผู้ขับขนาด 16 นิ้ว
ภายในห้องโดยสารยังมีออปชันเสริมให้เจ้าของรถเลือกใส่มากมาย ที่น่าสนใจได้แก่ หลังคากระจกแบบเต็มบาน และไฟบรรยากาศภายในห้องโดยสาร Attitude Adjustment ที่ปรับได้สูงสุด 64 สี และสามารถปรับเปลี่ยนตามฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ เช่น ขณะเปิดประตูรถ หรือกดปุ่มสตาร์ท นอกจากนี้ยังมีแพ็กเกจเบาะนั่ง Bucket seat ที่สามารถเลือกวัสดุหุ้มได้ตั้งแต่ผ้า หนังสังเคราะห์ ไปจนถึงหนัง Nappa
พูดได้เต็มปากว่า All-New Dodge Charger 2024 คือการก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของ Muscle Car อเมริกันอย่างแท้จริง ด้วยการมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้า 100% เป็นครั้งแรก พร้อมด้วยความน่าสนใจมากมาย แต่สิ่งที่ไม่จางหายไปคือ DNA ดั้งเดิมของ Dodge Charger ในฐานะรถสมรรถนะสูงที่ไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องพละกำลังและสมรรถนะการขับขี่แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้ใช้หัวใจ V8 HEMI แล้วก็ตาม
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่: www.dodge.com