Mercedes-AMG เกิดขึ้นมาจากความเชี่ยวชาญด้านมอเตอร์สปอร์ตของ Mercedes-Benz ที่ได้รวบรวมหัวกะทิด้านการทำรถแข่งมาก่อตั้งทีมแข่ง ก่อนจะพัฒนาจนกลายมาเป็นแผนกหนึ่งของบริษัทที่มุ่งทำรถสมรรถนะสูงโดยเฉพาะ ประสบการณ์จากสนามแข่งทั้งหมดถูกถ่ายทอดลงสู่รถ AMG ทุกโมเดล เช่นเดียวกับ PureSpeed สปอร์ตรุ่นพิเศษที่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นการยกย่องมรดกด้านมอเตอร์สปอร์ต ด้วยการออกแบบที่น่าตื่นเต้น พร้อมเทคโนโลยีการขับขี่ขั้นสูงที่กระตุ้นอะดรีนาลีนได้สูงสุด MenDetails อยากชวนทุกท่านมารู้จักสปอร์ตไร้หลังคารุ่นนี้และดูว่ามีความพิเศษอย่างไร
แรงบันดาลใจจากรถแข่งระดับตำนาน
PureSpeed เป็นสปอร์ตเปิดประทุนสองที่นั่งไม่มีหลังคาและกระจกหน้ารถ รูปลักษณ์ภายนอกได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่งในตำนานอย่าง 300 SLR หมายเลข 722 สีเงิน Silver Arrow ซึ่งเป็นรถที่ Stirling Moss และ Denis Jenkinson ขับคว้าชัยชนะในการแข่งขัน Mille Miglia ปี 1955 (การแข่งขันระยะทาง 1,000 ไมล์) ในอิตาลี
คุณลักษณะเด่นของรถแข่ง 300 SLR ถูกถ่ายทอดสู่ PureSpeed ผ่านรูปทรงตัวถังแบบต่ำ ฝากระโปรงหน้ายาว ส่วนหน้ารถกดต่ำ และปลายจมูกยื่นแหลมคล้ายฉลาม ตัวถังมีการไล่สีไปหาลวดลายธงหมากรุกสีดำในส่วนท้ายรถ บริเวณซุ้มล้อหน้าทั้งสองข้างแปะตราหมายเลข 10 เป็นการรำลึกถึงรถแข่ง Mercedes สีแดง หมายเลข 10 ของ Christian Werner ที่คว้าชัยชนะในรายการ Targa Florio ที่ Sicily, Italy เมื่อปี 1924
คอนเซ็ปต์สีทูโทนสุดพิเศษ
ห้องโดยสารของ PureSpeed เน้นความคลาสสิกด้วยสีทูโทนและอุปกรณ์ตกแต่งในโทนสีขาว/ดำ ตั้งแต่พวงมาลัย เบาะนั่ง และพรมปูพื้น ทุกองค์ประกอบสะท้อนถึงแนวคิดที่แสดงออกถึงความรู้สึกของรถแข่ง เบาะนั่งหุ้มหนังพิเศษพร้อมการเย็บตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์ ให้การรองรับสรีระที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่แบบสปอร์ตและยังให้ความสบายไปพร้อมกัน
อีกหนึ่งจุดเด่นภายในห้องโดยสารคือนาฬิกาแอนะล็อกทำพิเศษโดย IWC Schaffhausen วางอยู่ตรงกลางคอนโซลหน้า ตัวเรือนทรงหยดน้ำทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ยึดกับโครงแบบลอย นาฬิกานี้มีฟีเจอร์จับเวลา Chronometer พร้อมหลักชั่วโมงและเข็มบนหน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนทุกสภาพแวดล้อม
อากาศพลศาสตร์ระดับการแข่งขัน
PureSpeed ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพอากาศพลศาสตร์ในระดับเดียวกับการแข่งขัน ช่องรับอากาศหน้าออกแบบให้มีความกว้างเพื่อการรับลมปริมาณมาก ฝากระโปรงมีการปรับให้เหมาะกับหลักอากาศพลศาสตร์พร้อมติดตั้งตัวเบี่ยงอากาศขนาดเล็กที่ด้านหน้าและด้านข้างของรถเพื่อช่วยป้องกันลมวนไม่ให้รบกวนผู้ขับขี่และผู้โดยสาร มีสปอยเลอร์หลังแบบ Active ที่สามารถปรับมุมได้ 5 ระดับตามความเร็วในการขับขี่ รวมถึงสปอยเลอร์คาร์บอนบริเวณใต้กันชนหน้าที่จะลดระดับลงอัตโนมัติประมาณ 40 มม. ที่ความเร็วสูงกว่า 80 กม./ชม. เพื่อเพิ่มแรงกดด้านหน้าและดูดรถให้แนบติดพื้นถนนมากที่สุด
อีกหนึ่งจุดเด่นของ PureSpeed คือการใช้โครง HALO แบบเดียวกับรถ F1 แทนเสา A-pillar ชิ้นส่วนนี้จะปกป้องศีรษะของผู้ขับขี่ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ นอกจากนี้ยังมีหมวกกันน็อค 2 ใบที่ออกแบบและผลิตขึ้นโดยเฉพาะสำหรับรถคันนี้ โดยหมวกกันน็อคจะมีระบบสื่อสารผ่าน Intercom และจับคู่กับสมาร์ตโฟนได้ ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถคุยโทรศัพท์และฟังเพลงผ่านลำโพงของหมวกกันน็อคได้
ขุมพลัง V8 ปรับแต่มาเฉพาะ
ใต้ฝาประโปรงหน้าของ PureSpeed คือเครื่องยนต์ AMG V8 เทอร์โบคู่ ขนาด 4.0 ลิตร กำลังสูงสุด 585 HP พร้อมแรงบิด 800 นิวตันเมตร ให้พละกำลังที่ยอดเยี่ยมพร้อมตัวเลขสมรรถนะสุดเร้าใจ รถสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ใน 3.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 315 กม./ชม. นอกจากนี้ เครื่องยนต์ยังให้สุ้มเสียงที่ไพเราะอีกด้วย
และเพื่อประสบการณ์ขับขี่แบบรถแข่งที่สนุกสนานขั้นสุด PureSpeed จึงมากับระบบช่วงล่าง AMG ACTIVE RIDE CONTROL ช่วยให้ผู้ขับขี่บังคับรถได้แม่นยำอย่างใจนึก และให้การตอบสนองที่เฉียบคมในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ยังติดตั้งเบรก Ceramic Composite ประสิทธิภาพสูงที่เอาอยู่ในทุกจังหวะการเบรก เผยความโดดเด่นผ่านคาลิเปอร์สีดำพร้อมโลโก้ AMG สีขาว ภายใต้วงล้อลายพิเศษขนาด 21 นิ้ว
คงไม่ใช่เรื่องง่ายหากจะครอบครอง Mercedes-AMG PureSpeed เพราะนี่คือรถ Limited ผลิตจำกัดแค่ 250 คัน แต่มันคือตัวแทนของประวัติศาสตร์ ความเชี่ยวชาญ และมรดกด้านกีฬามอเตอร์สปอร์ตของ Mercedes-Benz ที่พวกเขาคือผู้นำของวงการอย่างแท้จริง ถ้าคุณอยากสัมผัสจิตวิญญาณมอเตอร์สปอร์ตแท้ ๆ จาก Mercedes-Benz สามารถไปลองขับรถ Mercedes-AMG ทุกโมเดลที่มีขายในไทยได้ครับ แล้วคุณจะรู้ได้ว่าความเร้าใจแบบ AMG จริง ๆ มันเป็นยังไง