ในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและความเสี่ยงมากมาย เรามักถูกสอนให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้นทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายตัวเองและครอบครัว แต่มีแนวคิดหนึ่งที่ท้าทายความเชื่อนี้โดยสิ้นเชิง นั่นคือแนวคิด Antifragile ที่เสนอว่าการเผชิญหน้ากับความยากลำบาก กลับจะยิ่งทำให้เราเติบโตและแข็งแกร่งกว่าเดิม
Antifragile คืออะไร?
แนวคิด Antifragile หรือ “ความสามารถในการเติบโตจากความเสียหาย” หมายถึงการที่ระบบหรือบุคคลได้รับประโยชน์จากความผันผวน ความวุ่นวาย และความเครียด พูดง่าย ๆ คือ ยิ่งโดนทำร้าย ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น โดยแนวคิดนี้มาจากหนังสือของ Nassim Nicholas Taleb ที่มีชื่อว่า “Antifragile : Things That Gain From Disorder” ซึ่งเขาอธิบายว่าสิ่งที่มีคุณสมบัติ Antifragile จะเติบโตขึ้นไปอีกขั้นเมื่อได้รับผลกระทบจากความไม่แน่นอนหรือความเสียหายต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น การออกกำลังกายหนัก ๆ ที่ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการฉีกขาดเล็กน้อย และทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดบริเวณกล้ามเนื้อเหล่านั้น แต่ในกระบวนการซ่อมแซม ร่างกายจะสร้างกล้ามเนื้อใหม่ที่แข็งแรงกว่าเดิม นี่คือหลักการ Antifragile ที่เกิดขึ้นในระดับชีววิทยา
แล้วทำไมมนุษย์จึงมีคุณสมบัติ Antifragile?
มนุษย์ตอบสนองและปรับตัวเข้ากับความท้าทายต่าง ๆ ผ่านวิวัฒนาการทั้งทางชีววิทยาและจิตวิทยา โดยมีระบบที่เรียกว่า Hormesis ซึ่งหมายถึงภาวะการได้รับสารพิษหรือความเครียดในปริมาณน้อย ๆ ที่สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างกลไกป้องกันที่แข็งแกร่งขึ้น ตัวอย่างเช่น การออกกำลังกาย การอดอาหารเป็นช่วง ๆ (Intermittent Fasting) หรือการเผชิญกับอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำจนรู้สึกไม่สบายตัว ล้วนเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายแข็งแกร่งขึ้นในระยะยาว
ส่วนทางด้านจิตใจของมนุษย์ก็มีความสามารถในการเรียนรู้และเติบโตจากประสบการณ์ที่เจ็บปวดเช่นกัน เมื่อเราเผชิญกับความล้มเหลว สมองจะสร้างเส้นทางประสาทใหม่เพื่อช่วยให้เราสามารถจัดการกับปัญหาที่คล้ายคลึงกันในอนาคตได้ดีขึ้น นั่นทำให้เรามีทัศนคติที่ยืดหยุ่นทางความคิดและแข็งแกร่งขึ้นทางอารมณ์ในทุก ๆ ครั้งที่ถูกทดสอบ ยิ่งถ้าเป็นเรื่องที่เราเคยเจอมาก่อนแล้ว สมองจะสั่งการได้เร็วขึ้นว่าเรื่องนี้เราจะสามารถจัดการได้
Antifragile กับความแข็งแกร่งของผู้ชาย
เมื่อนำแนวคิด Antifragile มาประยุกต์กับชีวิตของผู้ชาย เราจะเห็นว่าความแข็งแกร่งไม่ได้มาจากการหลีกเลี่ยงปัญหาหรือความเจ็บปวด แต่มาจากการก้าวออกไปเผชิญหน้ากับมันอย่างตรงไปตรงมา การที่ผู้ชายจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้นั้น เราต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความเจ็บปวดและความล้มเหลวมาบ้าง ให้สิ่งเหล่านั้นช่วยหล่อหลอมให้เราเป็นคนที่เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นในทุก ๆ ครั้งที่ถูกกระทบกระเทือน
ยกตัวอย่างผู้ชายที่เคยเผชิญความผิดหวังในความสัมพันธ์ การอกหักหนัก ๆ อาจเป็นเรื่องเจ็บปวด แต่แทนที่จะจมอยู่กับความเศร้า ผู้ชายที่ Antifragile และผ่านภาวะนั้นมาได้จะเรียนรู้จากประสบการณ์เหล่านั้น เราจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น เรียนรู้ที่จะสื่อสารได้ดีขึ้น และเติบโตเป็นผู้ชายที่พร้อมสำหรับความสัมพันธ์ที่ดีกว่าในอนาคต
หรือความล้มเหลวในหน้าที่การงาน อย่างการถูกไล่ออก หรือการทำธุรกิจแล้วเจอความล้มเหลว แม้อาจดูเหมือนเป็นจุดจบ แต่ถ้าเรากัดฟันแล้วเรียนรู้จากมัน วิเคราะห์ว่าอะไรคือสาเหตุของความล้มเหลว พัฒนาทักษะใหม่ ๆ และสร้างเส้นทางใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ผลลัพธ์คือความ Antifragile ที่จะทำให้เราเป็นผู้ชายที่ดียิ่งขึ้นและแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
วิธีฝึกฝนตัวเองให้เป็นผู้ชาย Antifragile
การเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่งแบบ Antifragile ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่ต้องอาศัยการฝึกฝนและทัศนคติที่ถูกต้อง เริ่มจากเรื่องเล็กๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น ลองเดินทางไปในที่ที่ไม่คุ้นเคยโดยไม่มีแผนที่ หรือลองทำงานที่อยู่นอกเหนือความถนัดของเรา การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณคุ้นเคยกับการรับมือกับสิ่งที่ไม่คาดคิด และเมื่อเราทำอะไรแล้วเกิดความผิดพลาด เรียนรู้ที่จะรักความผิดพลาดเล็ก ๆ เพราะยิ่งเราทำผิดพลาดเล็ก ๆ บ่อยเท่าไร เรายิ่งเรียนรู้ได้เร็วขึ้นเท่านั้น ลองมองความผิดพลาดเป็นเหมือน “สัญญาณเตือน” ที่ช่วยให้เราปรับปรุงตัวเองและป้องกันความผิดพลาดที่ใหญ่กว่าในอนาคต
สร้าง “ตัวสำรอง” หรือ Redundancy โดยไม่พึ่งพาสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากเกินไป เช่น อย่าพึ่งพารายได้จากแหล่งเดียว หรือ อย่าพึ่งพามิตรภาพจากคนเพียงคนเดียว การมีทางเลือกสำรองไว้เสมอจะช่วยลดความเปราะบางของตัวเองลงและทำให้คุณสามารถฟื้นตัวได้เร็วขึ้นเมื่อเกิดวิกฤต
นอกจากตัวสำรอง หรือ Redundancy แล้วนั้น เราควรสร้าง “ตัวเลือก” หรือ Optionality ให้ตัวเราเองด้วย ความแตกต่างของสองสิ่งนี้อยู่ตรงที่เราจะใช้งาน Redundancy ในเชิงรับเมื่อเราเกิดภาวะวิกฤติ และต้องการเบาะรองรับในช่วงยากลำบาก ส่วน Optionality คือตัวเลือกที่เราใช้งานในเชิงรุก เช่น เมื่อเราลงทุนสร้างกิจการด้วยการมองหาตัวเลือกที่หลากหลายขึ้น ซึ่งจะเปิดโอกาสให้เราได้เจอกับการลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม เป็นกลยุทธ์เชิงรุกที่เน้นการเติบโตจากความไม่แน่นอน
สุดท้ายคือการให้รางวัลตัวเองเมื่อผ่านความท้าทาย เมื่อเราสามารถก้าวผ่านความยากลำบากได้สำเร็จ จงให้รางวัลตัวเองเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองและตอกย้ำว่าคุณสามารถทำได้ การทำเช่นนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณอยากเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ ๆ ต่อไป
ความแข็งแกร่งของผู้ชายไม่ได้มาจากความพยายามทุกวิถีทางเพื่อป้องกันและหลีกหนีปัญหา แต่มันจะมาจากการใช้ความเจ็บปวดและความล้มเหลวให้เป็นเชื้อเพลิงในการเติบโต ถ้าเราน้อมรับความไม่แน่นอนและความท้าทายในชีวิต สิ่งเหล่านั้นจะหล่อหลอมเราให้เป็นผู้ชายที่ดีขึ้นและแข็งแกร่งยิ่งขึ้นกว่าเดิมเสมอ มาร่วมพัฒนาตัวเองให้เป็นผู้ชาย Antifragile ไปด้วยกันกับพวกเราที่ MenDetails นะครับ