พูดถึงชื่อแบรนด์ George Cleverley ใครที่ติดตาม MenDetails มาสักพัก หรือเป็นคนที่สนใจเรื่อง Classic Menswear โดยเฉพาะรองเท้าหนัง น่าจะต้องรู้จักในฐานะสุดยอดแบรนด์รองเท้า Dress Shoes สัญชาติอังกฤษ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และประสบการณ์การทำรองเท้าที่สั่งสมมายาวนาน ได้รับความไว้วางใจจากผู้ชายทั่วโลก ไล่ตั้งแต่เชื้อพระวงศ์ ดาราภาพยนตร์ นักธุรกิจ คนมีชื่อเสียง ไปจนถึงคนธรรมดาทั่วไป
ล่าสุดเรามีโอกาสในการสนทนากับคุณ George Glasgow Jr ผู้เป็น CEO และ Creative Director ของแบรนด์ ที่เดินทางมาเปิด Trunk Show ในประเทศไทย ที่ร้าน The Refinement เกี่ยวกับเรื่องราวที่น่าสนใจของเทรนด์โลกรองเท้าหนังในปัจจุบัน มาดูกันว่าในสายตาของแบรนด์รองเท้าหนังระดับโลก ตอนนี้มีอะไรที่กำลังเกิดขึ้นบ้าง ผ่านบทความสัมภาษณ์นี้ครับ
เมื่อรองเท้าหนัง ไม่ใช่รองเท้าของคนมีอายุอีกต่อไป
สิ่งแรกที่คุณ George Glasgow Jr ประหลาดใจอย่างมาก เมื่อมาเปิด Trunk Show ในประเทศไทย คือเรื่องของอายุเฉลี่ยของลูกค้าที่ให้ความสนใจและแวะเวียนมาทั้งมาดูรองเท้า และที่ร้าน The Refinement ที่ยังเป็นกลุ่มคนอายุไม่มากนัก อยู่ที่ 30 – 35 ปี ในขณะที่ก่อนหน้านี้ที่เขาไปญี่ปุ่น อายุเฉลี่ยของคนอยู่ที่ 50 ปี แต่เขาคาดว่าเป็นเพราะเรื่องของราคาที่สูงเกินกว่าที่คนอายุราว 30 ทั่วไปจะซื้อได้ และนั่นก็เป็นแค่รองเท้าแบบ Bespoke ถ้าเป็น Ready to wear อายุเฉลี่ยของคนที่ซื้อก็น้อยลงเช่นกัน แต่โดยรวมคือกลุ่มลูกค้าที่ซื้อรองเท้ามีอายุเฉลี่ยน้อยลงอย่างสังเกตได้
เราเห็นคนที่อายุน้อย ๆ 30 – 31 แต่แต่งตัวมีความซับซ้อนมาก ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นเรื่องของการเข้าถึงข้อมูล เมื่อคนมีเงินที่จะสามารถแต่งตัวแบบที่ต้องการได้ พวกเขาสามารถหาข้อมูลในโลกออนไลน์อย่าง IG เว็บไซต์มากมาย เพื่อหาแบรนด์ที่ดีที่สุดได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากอายุของกลุ่มลูกค้าจะน้อยลงแล้ว ลักษณะของการสั่งซื้อรองเท้าก็เปลี่ยนไปจากช่วงสิบกว่าปีก่อนด้วย เพราะในอดีตการที่จะหาคนที่พร้อมจะจ่ายเงินกับรองเท้า Bespoke สักคู่หนึ่งนั้นไม่ง่าย แต่ในปัจจุบันนี้ตรงกันข้าม การขายรองเท้า Bespoke นั้นง่ายมาก โดยเฉพาะในอเมริกา และสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นในเมืองใหญ่ แต่เมืองเล็ก ๆ ก็เป็นแบบนี้เช่นกัน เป็นสิ่งที่คุณ George Glasgow Jr ประหลาดใจมาก
หลายปีก่อนรองเท้า tassel loafer จะเป็นรองเท้าที่พวกคนมีอายุใส่กัน และแบรนด์ขายรองเท้าแบบนี้ได้น้อยมานานมาก จนกระทั่ง 7 – 8 ปีก่อน คนหนุ่มเริ่มใส่รองเท้านี้ แบบไม่ใส่ถุงเท้า กับกางเกง แล้วมันดูดีมาก พอมาตอนนี้เราก็เห็นรองเท้า tassel loafer ทั้งแบบ Bespoke และ Ready to wear เต็มไปหมด เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ผู้คนเลือกที่จะออกจากความ “เบสิค” มากขึ้น
ในประเทศไทยสีที่เบสิคอย่างดำกับน้ำตาลก็ยังเป็นที่นิยม แต่ถ้าให้แนะนำสำหรับคู่ถัด ๆ ไป คงเป็นสี Dark Brown เพราะคุณสามารถจัดคู่ได้หลากหลาย ทั้งสูทสีกรมท่า สูทสีเทา ยีนส์ และอะไรก็ได้ที่คุณอยากใส่
สิ่งหนึ่งที่เทรนด์ของโลกกำลังเปลี่ยนไป คือลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เลือกที่จะออกจากความเบสิคมากขึ้น คุณ George Glasgow Jr ยกตัวอย่างว่า ในรองเท้า Bespoke 100 คู่ ที่แบรนด์ตัดให้ลูกค้า ปัจจุบันนี้จะมีประมาณ 5 คู่ที่เป็นสีดำ ส่วนอีก 95 คู่ที่เหลือจะเป็นสีที่ต่างกันไป ทั้งสีน้ำตาลเฉดต่าง ๆ หนังกลับ หนังวัว หนังจระเข้ และอีกมากมาย ต่างจากในอดีตราว 10 กว่าปีที่แล้ว ที่รองเท้า 100 คู่ จะเป็นสีดำไปแล้ว 95 คู่ แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของคน เพราะในตอนนี้ผู้คนเมื่อสั่งตัดรองเท้า Bespoke สักคู่ ก็อยากได้อะไรที่แตกต่าง ไม่ใช่สีดำแบบเดิม ๆ เป็นของที่พิเศษ เป็น Statement Shoes ที่ใส่ไปที่ไหนก็ต้องมีคนถาม มีคนสนใจ ส่วนอีกหนึ่งเหตุผลก็เพราะว่ารองเท้า Ready to wear ของแบรนด์ต่าง ๆ ในปัจจุบัน มีจำนวนไม่น้อยที่ทำออกมาดูเหมือนรองเท้า Bespoke ทำให้คนเลือกที่จะสั่งตัดรองเท้าให้แตกต่าง และจะเป็นรองเท้าที่หากคนที่รู้เรื่องรองเท้าเหมือนกันมองมาก็จะรู้ว่าเป็นรองเท้าของ George Cleverley
ความต่างของตลาดรองเท้าหนังเอเชีย และยุโรป / อเมริกา
ตลาดเอเชียมีความน่าสนใจมาก เช่น ญี่ปุ่น ไทย คนยังมีความอนุรักษนิยมสูง ถ้าลูกค้าเอเชียซื้อของจากแบรนด์เรา พวกเขาก็จะซื้อพวกรองเท้าคลาสสิก อย่าง Oxford ในขณะที่คนอเมริกันและยุโรป พวกเขาจะซื้อ Oxford และจะซื้อรองเท้า Loafer สไตล์ Casual ไปด้วย แล้วก็อาจจะซื้อ Chukka Boots อีกสักคู่ ซึ่งรองเท้าพวกนี้เราขายไม่ค่อยได้ในแถบเอเชีย
สิ่งที่คุณ George Glasgow Jr บอกว่าตลาดเอเชีย ต่างกับตลาดฝั่งอเมริกาอย่างชัดเจน คือ ความอนุรักษนิยม ที่คนเอเชียจะซื้อรองเท้าที่มีเป็นรองเท้าคลาสสิกที่คนใส่รองเท้าหนังหรือ Classic Menswear ต้องมี ในขณะที่ฝั่งตะวันตกนอกจากจะซื้อรองเท้าคลาสสิกแล้ว พวกเขาจะซื้อรองเท้าอื่น ๆ พ่วงไปด้วย ซึ่งพวกเขาก็จะเอาไปใส่กับสูท กางกางยีนส์ ตามแต่สไตล์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็สะท้อนออกมาผ่านรองเท้าที่วางขายตามร้าน โดยเฉพาะในญี่ปุ่นที่จะมีแต่รองเท้าคลาสสิก ส่วนร้านขายฝั่งตะวันตกจะมีตัวเลือกที่หลากหลายนอกเหนือไปจากตัวเลือกคลาสสิก ไม่ใช่แค่รุ่น แต่รวมถึงสีและวัสดุที่ใช้ด้วย
ความอนุรักษนิยมนี้ ไม่ได้อยู่แค่ในรองเท้า Ready to wear แต่ยังรวมถึงรองเท้า Bespoke ด้วย ในฝั่งตะวันตกแบรนด์อาจมีลูกค้าเข้ามาสั่งตัดรองเท้า Loafer หนังจระเข้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติมาก เพราะรองเท้าหนังจระเข้ทางฝั่งตะวันตกนี่แบนด์สามารถขายได้เป็นพัน ๆ คู่ ซึ่งก็มีสีสันต่างไปกันไป ทั้งสีน้ำเงิน สีม่วง สีขาว
คุณ George Glasgow Jr คาดว่า เรื่องของสภาพภูมิอากาศก็อาจจะมีส่วนในเรื่องการใส่รองเท้า เพราะประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีอากาศร้อนอบอ้าว ส่วนอเมริกาและยุโรปมีหลายฤดู และแต่ละฤดู อุณหภูมิก็ต่างกันไปอย่างชัดเจน ทำให้คนต้องมีชุดที่หลากหลายครอบคลุมทุกฤดู ทำให้แม้คนแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะอยากซื้อ แต่ก็จะเกิดคำถามขึ้นว่า ซื้อมาแล้วจะใส่ตอนไหน
สิ่งที่อยากฝากกับลูกค้าคนไทย คือ อยากให้ลองใส่อะไรที่ท้าทายดูบ้าง อย่างรองเท้า Chelsea boots หรือรองเท้า Churchill
นี่ก็เป็นเรื่องราวของเทรนด์รองเท้าหนังที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันที่ต่างไปจากเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทำให้เราเห็นว่ารองเท้าหนังไม่ใช่เรื่องของคนมีอายุอีกต่อไป และไม่จำเป็นต้องใส่กับสูท แต่เราสามารถนำมันมาใส่คู่กับการแต่งกายอื่น ๆ ออกมาเป็นสไตล์ที่ดูดีได้
สุดท้ายใครที่สนใจอยากสัมผัสรองเท้า George Cleverley ก็สามารถมาดูรองเท้า Ready to wear ของแบรนด์ได้ที่ร้าน Refinement ห้าง Central Embassy ชั้น 2 หรือถ้าใครอยากสั่งรองเท้าแบบ Bespoke ก็สามารถมาพูดคุยได้เมื่อแบรนด์มาเปิด Trunk Show ในประเทศไทยในวันที่ 20 – 21 พฤศจิกายนนี้ ส่วนใครที่อยากรู้จักรองเท้าแบรนด์นี้เพิ่มเติม สามารถอ่านบทความประวัติรองเท้าแบรนด์นี้ที่เราเคยไว้ก่อนได้ครับ