“ทำงานจนตาย” ดูเหมือนจะเป็นวลีเชิงเหน็บแนมที่หลายชอบบ่นกัน แต่วลีนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้จริง ซึ่งในทางสาธารณสุขเรียกภาวะนี้ว่าโรค Karoshi Syndrome โดยสาเหตุหลักนั้นมาจากการทำงานหนักเกินไปจนไม่มีเวลาพักผ่อน ทำให้เสียสุขภาพ และร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต MenDetails มองว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ แต่เป็นภัยเงียบที่สามารถคร่าชีวิตคนบ้างานได้เลยทีเดียว มารู้จักสาเหตุและการป้องกันโรคนี้กันครับ
Karoshi Syndrome คืออะไร
Karoshi Syndrome (คาโรชิ ซินโดรม) เป็นโรคที่เกิดจากการทำงานหนักติดต่อกันเป็นเวลานานจนร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดความเครียดสะสม และกระตุ้นให้สมองหลั่งฮอร์โมน Catecholamine (แคททีโคลามีน) และฮอร์โมน Cortisol (คอร์ติซอล) ออกมาในเลือด เมื่อเลือดมีฮอร์โมนเหล่านี้ปะปนในปริมาณมากอยู่ตลอดเวลา สิ่งที่ตามมาคือภาวะความดันเลือดสูง ระดับไขมันในเลือดสูง ระดับน้ำตาลในเลือดสูง รวมถึงภาวะหลอดเลือดแข็งตัวและตีบตัน นี่เป็นอันตรายอย่างมากเพราะเป็นต้นเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง ซึ่งความร้ายแรงที่สุดคือทำให้เสียชีวิตได้
ส่วนคำว่า Karoshi (คาโรชิ) เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่ใช้อธิบายการเสียชีวิตอย่างกะทันหันโดยไม่ทราบสาเหตุซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานหนักเกินไป เริ่มเป็นที่รู้จักจากที่มีข่าวพนักงานสถานีโทรทัศน์ชื่อดังเสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลวเนื่องจากการทำงานล่วงเวลาอย่างหนัก ประเด็นนี้ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นออกกฎหมายมาควบคุมเรื่องชั่วโมงการทำงานอย่างจริงจัง เพื่อเป็นการป้องกันโรค Karoshi และการฆ่าตัวตายที่เกิดจากความผิดปกติทางจิตเนื่องจากความเครียดอย่างรุนแรงในที่ทำงาน
พฤติกรรมเสี่ยงที่เป็นต้นเหตุของ Karoshi Syndrome
ปฏิเสธไม่ได้ว่าสาเหตุหลักของโรค Karoshi Syndrome นั้นมาจากการทำงานหนักเกินไปจนร่างกายไม่ได้พักผ่อน ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากพฤติกรรมการทำงานของตัวเองที่ทำให้เป็นโรคนี้ เช่น
- ทำงานเกินเวลา ควบกะ ทำงานหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ โดยไม่พักผ่อน
- มาทำงานเร็วแต่กลับบ้านช้าที่สุดในออฟฟิศ
- คิดหมกมุ่นแต่เรื่องงานจนไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น
- เก็บความเครียดและความกดดันจากงานไว้คนเดียว
- ทำแต่งานอย่างเดียว ไม่ลาป่วย ไม่ลากิจ ไม่ลาพักร้อนเลยทั้งปี
- ทุ่มทั้งชีวิตไปกับงานจนไม่มีเวลาให้ตัวเองและครอบครัว เพื่อนฝูง
- นอนดึกแต่ตื่นเช้า พักผ่อนน้อย
- ไม่ออกกำลังกาย
หากคุณพบว่าตัวเองมีพฤติกรรมเหล่านี้ จงรู้ไว้เลยคุณกำลังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค Karoshi Syndrome หากไม่รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รับรองว่าปัญหาสุขภาพจะตามาในไม่ช้าอย่างแน่นอน
อาการอะไรบ้างที่บอกว่าคุณกำลังเป็นโรค Karoshi Syndrome
อาการของโรค Karoshi Syndrome มีความคล้ายคลึงกับหลาย ๆ โรคที่คนวัยทำงานพบเจอ เช่น โรคเครียด ไมเกรน ออฟฟิศซินโดรม เป็นต้น ทำให้หลายคนเข้าใจว่าเป็นโรคเหล่านี้และพาลคิดว่าเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็เป็นกัน หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการเหล่านี้ เป็นไปได้ว่ากำลังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรค Karoshi Syndrome
- นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท หรือตื่นกลางดึกบ่อย ๆ
- ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า
- ฝันถึงเรื่องงานบ่อย เหตุการณ์ในฝันเหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงตอนทำงาน
- ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดตา คล้ายกับโรคออฟฟิศซินโดรม
- ปวดหัวบ่อยและปวดหนักทุกครั้ง
- อารมณ์ฉุนเฉียว โมโหง่าย
เราจะป้องกัน Karoshi Syndrome ได้อย่างไร
การป้องกันโรค Karoshi Syndrome ทำได้ง่าย ๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานและการใช้ชีวิตของตัวเองใหม่ เพียงแค่รู้จักปรับการทำงานในแต่ละวันให้พอดีกับตัวเอง ไม่ทำงานหนักเกินไป พักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังร่างกายอย่างสม่ำเสมอ หากพบว่างานที่ทำอยู่นั้นยาก เครียด กดดัน หรือมีปริมาณมากเกินความพอดี ควรรีบหาทางออกให้เร็วที่สุด อย่าฝืนทำจนเสียสุขภาพแล้วค่อยคิดหาทางแก้ทีหลัง
นอกจากนี้ อย่าลืมหาสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต หาเวลาไปทำอย่างอื่นที่ชอบบ้าง เช่น ออกไปเที่ยว ดูหนัง ฟังเพลง ทำอะไรที่ผ่อนคลายและไม่ต้องใช้ความคิดเยอะ ทำกิจกรรมสนุก ๆ กับเพื่อนฝูง คนรัก ครอบครัว และควรตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ หากทำได้ ชีวิตของคุณจะมีความสุขขึ้นอีกเยอะ และก็ไม่ต้องกังวลโรค Karoshi Syndrome อีกต่อไป
ต่อไปนี้ถ้าเจอใครพูดว่า “งานหนักไม่ทำให้ตายหรอก” คุณสามารถลุกขึ้นเถียงได้แบบสุดเสียงไปเลยว่า “ไม่จริง” และยกตัวอย่างโรค Karoshi Syndrome ให้คนคนนั้นเห็นว่า “งานหนักก็ทำให้คนตายได้” แถมเป็นการตายอย่างช้า ๆ ที่เจ้าตัวอาจจะไม่รู้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นอย่าปล่อยให้ตัวเราต้องมาเผชิญกับโรคนี้ ทำงานแต่พอดีให้มีความสุข และมีเวลาไปทำในสิ่งที่ชอบพร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรงดีกว่าครับ