อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าประเทศญี่ปุ่นนั้นบอบช้ำจากสงครามโลกครั้งที่ 2 มากเพียงใด ซึ่งมันส่งผลให้ชาวญี่ปุ่นหลายคนได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ แต่ขณะเดียวกัน บาดแผลของสงครามก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับนักออกแบบกราฟิกชาวญี่ปุ่นอย่างคุณ Shigeo Fukuda ในการสร้างสรรค์ผลงานอันเป็นเอกลักษณ์และมีสไตล์เฉพาะตัวจนได้รับชื่อเสียงในระดับนานาชาติ บทความนี้ MenDetails ขอชวนทุกท่านมารู้จักประวัติและผลงานของชายผู้เล่าเรื่องสงครามผ่านงานโปสเตอร์กราฟิกที่สนุกและเรียบง่ายคนนี้กันครับ
ชีวประวัติของ Shigeo Fukuda
Credit: www.montreuxjazzshop.com
คุณ Shigeo Fukuda เกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ปี 1932 ที่กรุงโตเกียว ในครอบครัวที่ประกอบธุรกิจผลิตของเล่น ทำให้เขาสนุกกับการพับกระดาษโอริกามิตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เมื่อเริ่มเติบโตเป็นหนุ่มในช่วงปลายทศวรรษ 1940 เขาเริ่มมีความสนใจในการออกแบบกราฟิกสไตล์ตะวันตกที่เรียกว่า Swiss Style และจบการศึกษาจาก Tokyo National University of Fine Arts and Music ในปี 1956
หลังจบการศึกษา คุณ Fukuda มุ่งมั่นเดินหน้าบนถนนสายศิลปะและการออกแบบกราฟิกเต็มตัว หลายคนรู้จักเขาในฐานะนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและนักต่อต้านสงครามจากผลงานโปสเตอร์ที่มักจะสื่อสารเกี่ยวกับประเด็นเหล่านี้ หลาย ๆ ผลงานของเขาโด่งดังทั้งในญี่ปุ่นและในระดับสากล ส่งผลให้เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักออกแบบกราฟิกยุคหลังสงครามที่โด่งดังมาก ๆ ในยุคนั้น
คุณ Fukuda ทำงานด้านศิลปะและออกแบบกราฟิกมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเสียชีวิตในวันที่ 11 มกราคม ปี 2009 ด้วยวัย 76 ปี เนื่องจากภาวะเลือดออกในเยื่อหุ้มสมองชั้นกลาง ผลงานของเขาได้รับการยกย่องให้เป็นต้นแบบต่อศิลปินรุ่นหลัง และหลายผลงานยังคงถูกพูดถึงอยู่ในปัจจุบัน
เส้นทางชีวิตในงานสายศิลปะ
Credit: www.zilliondesigns.com
ตลอดอาชีพของคุณ Fukuda ได้สร้างสรรค์ผลงานออกมามากมายทั้งโปสเตอร์, หนังสือ รวมถึงงานประติมากรรม โดยงานส่วนใหญ่จะเน้นสื่อสารเกี่ยวกับประเด็นทางสังคม การเมือง สงคราม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960 คุณ Fukuda ได้จัดนิทรรศการของตัวเองครั้งแรกที่ IBM Gallery ในนคร New York โดยการช่วยเหลือจาก Paul Rand นิทรรศการครั้งนั้นเปรียบเสมือนใบเบิกทางให้คุณ Fukuda เริ่มมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักในอเมริกา
ตลอดช่วงทศวรรษ 1970 ถึง 1990 คุณ Fukuda ได้สร้างสรรค์ผลงานที่ทรงอิทธิพลออกมาอย่างต่อเนื่อง สำนักข่าวระดับโลกอย่าง The New York Times อธิบายว่าผลงานโปสเตอร์ของคุณ Fukuda “กลั่นกรองแนวคิดที่ซับซ้อนให้กลายเป็นภาพที่เรียบง่ายและน่าสนใจ” นอกจากผลงานที่เกี่ยวข้องกับประเด็นทางสังคมแล้ว ผลงานในเชิงพาณิชย์ก็มีออกมาเช่นกัน ตัวอย่างเช่น โปสเตอร์งาน World’s Fair ที่ Osaka ในปี 1970 และโปสเตอร์สำหรับ Amnesty International ในปี 1980
ด้วยสไตล์ที่มีเอกลักษณ์และผลงานที่มีอิทธิพลต่อสังคม ทำให้คุณ Fukuda ได้รับการได้รับการแต่งตั้งให้เข้าสู่หอเกียรติยศของสมาคม New York Art Director Club ในปี 1987 ซึ่งทางสมาคมนิยามเขาว่าเป็น “นักสื่อสารด้วยภาพที่สมบูรณ์แบบของญี่ปุ่น” ถือเป็นนักออกแบบชาวญี่ปุ่นคนแรกที่ได้เข้าสู่หอเกียรติยศนี้ และเป็นดั่งจุดสูงสุดในอาชีพนักออกแบบกราฟิกของเขาด้วย
การเล่าเรื่องสงครามที่สนุกและเรียบง่าย
Credit: www.spoon-tamago.com
ด้วยความที่คุณ Shigeo Fukuda เกิดและเติบโตในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้เขารับรู้ถึงบรรยากาศของความสูญเสียและความเสื่อมโทรมของสังคมที่เสียหายจากสงครามเป็นอย่างดี สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานโปสเตอร์กราฟิกแนวต่อต้านสงครามและการรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่มีความหมายเข้มข้น ซึ่งจุดเด่นในงานของเขาคือการกลั่นกรองแนวคิดอันซับซ้อนให้ออกมาเป็นภาพที่เรียบง่ายและสะดุดตา ถ่ายทอดโดยอิงจากพลังของแนวคิด ผ่านการใช้เทคนิคภาพลวงตา การจัดวางองค์ประกอบซ้ำ ๆ รวมถึงการใช้สีสันที่มีความสดใส แฝงด้วยอารมณ์ขันและความสนุกอย่างกลมกลืน
หนึ่งในผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของคุณ Fukuda คือโปสเตอร์ชื่อ “Victory 1945” เป็นภาพของกระสุนปืนใหญ่สีดำกำลังตกใส่ปากกระบอกปืนที่ใช้ยิงมันออกมา โปสเตอร์ชิ้นนี้แสดงถึงการเสียดสีเกี่ยวกับความไร้เหตุผลของสงครามได้อย่างตรงไปตรงมา เรียบง่าย และทรงพลัง ขณะเดียวกันก็แฝงความสนุกที่สามารถเรียกรอยยิ้มจากผู้ชมได้ ซึ่งผลงานชิ้นนี้ยังคว้ารางวัล Grand Prize ในงาน Warsaw Poster Contest ปี 1975 มาได้อีกด้วย
ผลงานโปสเตอร์ของคุณ Shigeo Fukuda เป็นตัวอย่างที่ดีของความสมดุลระหว่างวิสัยทัศน์หลังสงครามของญี่ปุ่น จุดแข็งของ Pop Art และองค์ประกอบของการออกแบบกราฟิกแนว Swiss Style ที่มีความเรียบง่ายแต่สะดุดตา โดดเด่นแต่เข้าใจง่าย แฝงด้วยความขี้เล่นแบบ “ตลกร้าย” ของสงครามที่ดูแล้วสะเทือนใจ คงไม่เกินไปถ้าจะบอกว่าชายผู้นี้คือเจ้าพ่อโปสเตอร์แนวต่อต้านสงครามตัวจริงของญี่ปุ่น หากใครชื่นชอบงานศิลปะสไตล์นี้ นี่คืออีกหนึ่งศิลปินที่ควรรู้จักและศึกษาผลงานของเขาครับ
อ้างอิง