“ทำงานน้อยลงแต่สร้างรายได้มากขึ้น” น่าจะเป็นความปรารถนาของคนทำธุรกิจหลาย ๆ คน เพราะคุณจะได้มีเวลาเหลือมากขึ้น มีอิสระในชีวิตมากขึ้น ขณะที่ผลประกอบการของธุรกิจก็ยังอยู่ในเกณฑ์ดีและมีการเติบโตต่อเนื่องโดยที่คุณไม่เหนื่อยเกินไป ฟังดูแล้วอาจเป็นเรื่องยากแต่มันเป็นไปได้ครับ เพราะในบทความนี้ MenDetails จะมาแนะนำ 10 เทคนิคทำงานน้อยลงแต่สร้างรายได้มากขึ้น คนทำธุรกิจหรือเจ้าของกิจการสามารถนำไปปรับใช้ แล้วลองวัดผลเปรียบเทียบดูว่าสามารถลดจำนวนชั่วโมงทำงานลงได้แค่ไหน
แก้ไขปัญหาของลูกค้าก่อน
ไม่ว่าจะทำธุรกิจอะไรก็ตามย่อมหนีไม่พ้นสารพัดปัญหาที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกวัน แต่แทนที่จะไล่แก้ปัญหาอย่างสะเปะสะปะ ควรมุ่งเน้นไปที่การแก้ปัญหาที่เกี่ยวกับลูกค้าก่อน เช่นการเสนอบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่สามารถแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของลูกค้า เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้มากกว่า ซึ่งจะส่งผลดีต่อความน่าเชื่อถือและความภักดีที่ลูกค้ามีต่อธุรกิจของคุณ
ขายให้กับลูกค้าที่มีความสามารถในการซื้อ
การหากลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อและมีความพร้อมในการซื้อสินค้าหรือบริการของธุรกิจคุณเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณทำงานน้อยลงและสร้างยอดขายได้ตามเป้า เพราะการเน้นขายให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความสามารถในการซื้อจะช่วยลดเวลาและต้นทุนในการติดตามลูกค้า การนำเสนอ การโน้มน้าวใจ รวมถึงลดความเสี่ยงในการเสียเวลาและทรัพยากรไปกับลูกค้าที่ลังเลเพราะไม่มีกำลังซื้อ
สร้างความน่าจดจำ
การสร้างความน่าจดจำให้กับแบรนด์หรือธุรกิจจะทำให้ลูกค้าคิดถึงคุณเป็นคนแรกเมื่อต้องการสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้อง นอกจากอัตลักษณ์แบรนด์อย่างโก้ สี หรือสโลแกนที่โดดเด่นแล้ว คุณภาพของสินค้า การให้บริการที่เกินความคาดหวัง หรือความเอาใจใส่แม้ในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่จดจำของลูกค้าได้ ซึ่งความน่าจดจำนี้จะกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ยาวนานและส่งผลให้เกิดการซื้อซ้ำได้เรื่อย ๆ
ทำให้การแลกเปลี่ยนเงินเป็นเรื่องง่าย
ธุรกิจที่ดีควรทำให้ขั้นตอนการชำระเงินมีความง่าย ราบรื่น และหลากหลาย ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อและช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าลูกค้าสามารถชำระเงินได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นผ่านบัตรเครดิต ระบบออนไลน์ หรือช่องทางอื่น ๆ ที่เป็นที่นิยม การทำให้กระบวนการนี้เรียบง่ายที่สุดจะลดโอกาสที่ลูกค้าจะลังเลหรือยกเลิกการซื้อในขั้นตอนสุดท้าย
พัฒนาความเชี่ยวชาญของคุณ
การพัฒนาความเชี่ยวชาญในสายงานของคุณทำให้คุณสามารถให้บริการหรือผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงขึ้นได้ เมื่อคุณมีความรู้ความสามารถที่เชี่ยวชาญ คุณจะสามารถเสนอราคาในระดับที่สูงขึ้นได้ เพราะลูกค้ายอมจ่ายเพื่อคุณภาพและความมั่นใจในผลลัพธ์ นอกจากนี้ การเชี่ยวชาญในสาขาของคุณยังช่วยลดเวลาในการทำงาน เนื่องจากคุณสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
กำหนดขอบเขตการทำงาน
การกำหนดขอบเขตการทำงานช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการทำงานเกินความจำเป็นและไม่สร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่า การกำหนดเวลาที่ชัดเจนในการทำงาน การทำงานในขอบเขตที่คุณรับผิดชอบ และการไม่ยอมรับงานที่อยู่นอกเหนือจากเป้าหมายหลักจะช่วยลดภาระงานและเพิ่มเวลาในการโฟกัสกับงานที่สำคัญมากกว่าได้
จ้างใครสักคนมาทำงานแทนคุณ
การจ้างพนักงานหรือตัวแทนในการทำงานบางส่วนแทนคุณจะช่วยให้คุณมีเวลามากขึ้นในการมุ่งเน้นที่การขยายธุรกิจหรือการวางแผนกลยุทธ์ในอนาคต การแบ่งงานให้ผู้อื่นทำยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เนื่องจากคุณสามารถใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของคนที่คุณจ้างได้มากขึ้น นำมาซึ่งผลลัพธ์การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
วัดผลทุกสิ่งอย่างมีประสิทธิภาพ
การวัดผลการทำงานและการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณทราบว่าอะไรทำงานได้ผลดีและอะไรไม่ดี การใช้ข้อมูลที่ถูกต้องสามารถนำไปสู่การตัดสินใจที่ชาญฉลาด ลดเวลาและทรัพยากรที่ใช้ในการทดลองงานใหม่ และช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มรายได้
ฝึกอบรมโดยละเอียดเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะ
การฝึกอบรมทีมงานหรือพนักงานของคุณอย่างละเอียดในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหาที่เฉพาะเจาะจงจะช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้คุณไม่ต้องมาเสียเวลากับการแก้ปัญหาเดิม ๆ และทำให้กระบวนการทำงานของธุรกิจเป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้น
จ้างที่ปรึกษาธุรกิจ
การจ้างที่ปรึกษาทางธุรกิจที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ จะช่วยให้คุณสามารถลดเวลาที่ต้องใช้ในการเรียนรู้หรือแก้ไขปัญหาที่คุณไม่เชี่ยวชาญลง ที่ปรึกษาสามารถให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์และช่วยให้คุณตัดสินใจในเชิงธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด นอกจากนี้ ยังสามารถนำเสนอวิธีการใหม่ๆ ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งหมดนี้คือ 10 เทคนิคทำงานน้อยลงแต่สร้างรายได้มากขึ้น ที่สามารถช่วยให้คุณทำงานน้อยลงแต่สร้างรายได้มากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจ การตัดสินใจ รวมถึงการแก้ปัญหาให้ดีขึ้น ซึ่งการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่จำเป็นต้องทำงานหนักในปริมาณมาก ๆ เพียงอย่างเดียว แต่ต้องทำงานอย่างชาญฉลาด พร้อมกับมีเทคนิคดี ๆ ในการช่วยลดภาระการทำงานและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ไปพร้อมกัน
