หลังจากเปิดตัวร้านในห้างสรรพสินค้า ณ ย่านการค้าสำคัญต่าง ๆ อาทิเช่น Siam Paragon / EmSphere วันนี้ Le Labo Fragrances ขยับตัวออกจากพื้นที่ห้างฯ มาสู่ “ย่าน” ซึ่งแปลกตาจากเครื่องหอมชั้นนำส่วนใหญ่ในไทย โดยครั้งนี้ Le Labo เลือกเปิด Shop Stand Alone ที่ย่านอารีย์ อันเป็นหนึ่งในย่านที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็น Cafe ต่าง ๆ รวมไปถึงร้านอาหารและร้านเสื้อผ้าคุณภาพ และถือเป็นการวาง Brand Positioning ที่ฝังรากลึกหลอมรวมไปกับชุมชนของคนกรุงเทพฯ ได้เป็นอย่างดี ถือเป็นก้าวสำคัญของแบรนด์เลยก็ว่าได้ วันนี้ MenDetails จะพาไปเยี่ยมชมกันครับ
“ประสบการณ์” ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเลือกซื้อน้ำหอม ทางแบรนด์จึงตั้งใจออกแบบร้านที่บ่งบอกถึงเสน่ห์ของแต่ละพื้นที่ที่แบรนด์ไปตั้งอยู่ แต่ละ Location ก็จะมีการออกแบบที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นที่ Shanghai หรือล่าสุดที่ Kyoto และครั้งนี้ ทางแบรนด์ได้เลือกปรับพื้นที่จากอาคารดั้งเดิม ซึ่งเป็นเหมือนตึกอันเป็นเอกลักษณ์ของย่าน กับกำแพงสีอิฐ ณ หัวมุม ซอยอารีย์ 4 (ฝั่งเหนือ) ปรับให้ร่วมสมัยมากยิ่งขึ้น และเพิ่มประสบการณ์ให้กับลูกค้าได้อย่างเต็มที่
Wabi-Sabi
ความงามที่ไม่สมบูรณ์แบบ หรือ ความงามที่เป็นไปตามธรรมชาติ คือแนวคิดสำคัญและเป็นปรัชญาหลักของแบรนด์ จากอาคารเก่าที่โดดเด่นด้วยสีแดงอิฐ หรือ สีแดงหม่น (Ashy Red) ผสานเข้ากับ Design ภายในที่ร่วมสมัยพ่วงด้วยโทนสี Light Grey & Wood ทำให้ได้ความอบอุ่นและรู้สึกสงบเงียบในเวลาเดียวกัน
ใจกลาง Boutique คุณจะได้เจอกับต้นสนเกรวิลเลีย ตั้งตระหง่านและเป็นเหมือน Landmark สำคัญของร้าน พร้อมแสงธรรมชาติสาดส่องมาจากช่องเปิดด้านบน เชื่อมต่อระหว่างภายนอกและภายในเป็นเป็นอย่างดี และแน่นอนว่า บรรยากาศจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละช่วงเวลาที่คุณเปิดประตูเข้าสู่ร้านแห่งนี้
The Boutique
ถือเป็นการสร้าง Brand Experience ที่ครบเครื่องที่สุด กับ Stand Alone ที่มีน้ำหอม Classic Colleciton ทั้ง 18 กลิ่น พร้อมผลิตภัณฑ์เครื่องหอมภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเทียนหอม หรือ Home Fragrance เป็นต้น / ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและ Grooming / ของสะสมประจำแบรนด์อาทิเช่น Tote Bag, สมุดจดกลิ่น Santal / Holiday Limited Collection ที่จะส่งมอบเป็นของขวัญล้ำค่าให้กับคนสำคัญของคุณ ผ่าน Package สุดพิเศษจากแบรนด์ประจำ Holiday Season นี้
ที่ขาดไม่ได้เลยคือ การ Personalize ฉลากน้ำหอมและเทียน ด้วยความยาวสูงสุดที่ 23 ตัวอักษร เพื่อให้ของแต่ละชิ้น แทนความหมายสุดพิเศษของคุณโดยเฉพาะ ใครมีโอกาสแวะเวียนไปย่านอารีย์ อย่าลืมแวะไปร้าน Le Labo Boutique กันได้นะครับ
