เชื่อว่าคุณผู้อ่านหลาย ๆ ท่านน่าจะเคยมีประสบการณ์อยากไปดื่มที่บาร์สักแห่งหลังเลิกงาน หรือในวันหยุดพักผ่อน ให้เราได้นั่งชิล ๆ เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศและเครื่องดื่มดี ๆ แต่ติดปัญหาตรงที่ว่าชวนเพื่อน เพื่อนก็ไม่ไป ไม่ว่าง หรือความชอบเรื่องบาร์ไม่ตรงกัน ไปจนถึงปัญหาอีกร้อยแปดพันเก้า พอไม่มีคนไปด้วยครั้นจะ ไปบาร์คนเดียว ก็รู้สึกเขิน ไม่มั่นใจขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทำให้สุดท้ายก็ต้องเก็บความอยากเอาไว้ในใจ
ไม่ต้องไปห่วงไปครับ MenDetails เข้าใจความรู้สึกเหล่านี้เป็นอย่างดี และอยากบอกทุกท่านว่า การไปบาร์คนเดียวไม่ใช่เรื่องแปลก หรือเรื่องที่ต้องเขินอายแต่อย่างใด ตรงกันข้าม มันทำให้เราได้ผ่อนคลาย อยู่กับตัวเองและเครื่องดื่มดี ๆ รวมถึงอาจทำให้เราได้เจอผู้คนใหม่ ๆ สังคมใหม่ ๆ โดยไม่รู้ตัวด้วย นี่จึงเป็น คู่มือการไปบาร์คนเดียว ที่รับรองว่าจะช่วยให้ประสบการณ์การไปนั่งดื่มคนเดียวเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที
ทำไมการ ไปบาร์คนเดียว ถึงไม่ใช่เรื่องแปลก
หากใครเคยดูภาพยนตร์ต่างประเทศ เรามักจะเห็นฉากที่ตัวละครไปนั่งดื่มในบาร์คนเดียวอยู่บ่อยครั้ง มันทำให้เขาได้พูดคุยกับคนแปลกหน้า ไปจนถึงได้อยู่กับตัวเอง ปล่อยความคิดปล่อยตัว รวมถึงสัมผัสรสชาติเครื่องดื่มที่สั่ง การไปบาร์คนเดียวในชีวิตจริงก็ไม่ค่อยต่างจากที่เราเห็นตามภาพยนตร์เท่าไหร่ นั่นคือ การไปเผื่อผ่อนคลาย ไปนั่งสบาย ๆ กับเครื่องดื่มดี ๆ สำหรับคนไทยที่มีวัฒนธรรมชวนเพื่อนไปนั่งดื่ม นั่งกิน แล้วพูดคุยกันไปด้วย ก็อาจจะรู้สึกแปลก ๆ สักหน่อย แต่เชื่อเถอะครับว่าการไปบาร์คนเดียวก็มีเสน่ห์ในตัวมันเอง
อย่างแรกคือเราสามารถเลือกร้านได้ตามใจ วันนี้อยากไปบาร์แถวนี้ อยากไปบาร์สไตล์นี้ เลือกได้หมด ไม่ต้องปรึกษาใคร เมื่อไปถึงก็สามารถนั่งดื่มด่ำเครื่องดื่มที่อยากดื่ม กับบรรยากาศของบาร์ได้ ไม่ว่าบาร์นั้นจะเป็นบาร์ขรึม ๆ หน่อย หรือจะมีบรรยากาศผ่อนคลายแบบ Speak easy ไปจนถึงบาร์ที่มี Live Music ประจำวัน ที่สำคัญคือการไปบาร์คนเดียวยังเปิดโอกาสให้เราได้เจอผู้คนใหม่ ๆ ที่อาจจะได้มานั่งพูดคุยกัน บางคนอาจจะเป็นการเจอกันแค่ครั้งเดียว บางคนอาจจะได้แลกช่องทางการติดต่อเก็บไว้ เป็นวงสังคมใหม่ ๆ ที่ถ้ามากับเพื่อนก็อาจไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนในบาร์หรือแม้แต่กับบาร์เทนเดอร์
นี่รวมถึงการที่เวลาเราเดินทางไปต่างเมือง ต่างที่ ต่างประเทศ การไปบาร์คนเดียวจะทำให้เราได้เจอคนท้องถิ่น ได้พูดคุยกับความรู้จักพวกเขา และอาจเกิดมิตรภาพดี ๆ ขึ้นได้ครับ
ตามหาบาร์ที่เข้ากับสไตล์ของเรา
การไปบาร์คนเดียวอาจจะไม่ใช่เรื่องสนุก ถ้าหากว่าเราไม่เลือกประเภทของบาร์ที่จะไปเสียกก่อน เพราะแต่ละบาร์ก็จะดึงดูดคนที่มีความชอบต่างกันไป ถ้าเราไปบาร์สไตล์ที่ไม่ถูกกับเราก็ยากที่จะเพลิดเพลินกับบรรยากาศ หรือแม้แต่การได้เจอผู้คนใหม่ ๆ ก็จะพูดคุยกันได้ยากไปด้วย จากความชอบที่ไม่เหมือนกัน
ถ้าหากเราชอบกีฬา เชียร์ฟุตบอลกับเครื่องดื่มดี ๆ บรรยากาศสนุก ๆ Sport Bar ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม ที่นี่จะทำให้เราเจอคนที่ชื่นชอบกีฬาเหมือนกัน ได้มาเชียร์การแข่งหรือพูดคุยกัน ในประเทศไทยก็มีบาร์สไตล์นี้เกิดขึ้นอยู่พอสมควร หรือใครชอบฟังเพลงก็อาจจะเลือก Jazz bar หรือ บาร์ที่มีดนตรีสดเล่น ตามความชอบในสไตล์เพลง เราก็มีโอกาสจะได้เจอคนที่อยากฟังเพลงเหมือน ๆ กัน หรือชอบเสียงดนตรีเหมือน ๆ กัน มาร้อง มาดื่มด้วยกัน ส่วนใครชอบบาร์บรรยากาศนิ่ง ๆ อาจจะไม่ถึงขั้นซีเรียสมาก ก็อาจจะเลือกไปบาร์สไตล์ Speak Easy ที่เราสามารถพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ หรือคนที่มานั่งดื่มเหมือนกันได้ง่ายขึ้น
เลือกที่นั่งให้ดี และอย่าปิดตัวเองมากเกินไป
เมื่อไปถึงบาร์แล้ว หากใครที่อยากจะนั่งเสพบรรยากาศกับเครื่องดื่มคนเดียว หรือไปบาร์ที่มีดนตรีสด อยากจะนั่งฟังเพลงสบาย ๆ คนเดียว ไม่สุงสิงกับใคร ก็สามารถทำได้ แต่ถ้าใครที่อยากเปิดโอกาสการพบพานใหม่ ๆ เจอผู้คนใหม่ ๆ ได้พูดคุยกัน ก็อาจจะต้องเลือกตำแหน่งที่นั่งในจุดยุทธศาสตร์ที่ดีกันสักนิด รวมถึงต้องไม่ปิดตัวเองเกินไปด้วย
ในบางครั้งบาร์อาจมีคนเยอะ ทำให้มีตัวเลือกที่นั่งไม่มาก นอกจากเลือกว่าจะเข้าหรือไม่เข้า แต่ถ้าเลือกได้เราแนะนำว่าเลือกที่นั่งที่เคาร์เตอร์บาร์เทนเดอร์จะดีที่สุดสำหรับการได้พูดคุย เพราะอย่างน้อย ๆ เราก็ยังสามารถสนทนากับบาร์เทนเดอร์ได้ ถามเรื่องเครื่องดื่ม ให้บาร์เทนเดอร์แนะนำเครื่องดื่มได้ และจะดียิ่งขึ้นหากเลือกนั่งบริเวณกลาง ๆ เคาร์เตอร์ เพราะนี่คือจุดที่ดีที่สุดที่เราสามารถหันไปสนทนากับคนอื่น ๆ ได้ทั้งด้านซ้ายและขวา ที่สำคัญคืออย่าลืมเว้นพื้นที่ส่วนตัวไว้สักหน่อย ถ้าหากมีคนนั่งอยู่ที่เคาร์เตอร์ก่อนแล้วก็ให้เว้นไปอีกสักที่นั่ง หากดื่ม ๆ ไปแล้วคุยกันถูกคอก็ค่อยขยับมานั่งใกล้กัน
วิธีที่ง่ายมาก ๆ ที่ทำให้คนอื่นรู้ว่าเราไม่ได้ต้องการนั่งเงียบ ๆ คนเดียวไม่สุงสิงกับใคร คือ การไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นครับ อาจจะหยิบมาดูได้นิด ๆ หน่อย ๆ แต่ถ้าเราก้มหน้าก้มตาดูวิดีโอ อ่านอะไรก็ตามในมือถือ เช็คสื่อโซเชียลตลอดมันจะเป็นการบอกคนอื่นทางอ้อมว่าไม่ต้องการคุยกับใคร และพยายามสังเกตคนในบาร์ที่มานั่งบริเวณเคาร์เตอร์ไว้เสมอ เพราะโอกาสในการสนทนาอาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ เช่น ถามว่าเขามาบาร์นี้บ่อยไหม เครื่องดื่มไหนที่ชอบ หรือสิ่งที่เขากำลังดื่มคืออะไร ก็เป็นการเริ่มต้นบทสนทนาได้ง่าย ๆ แล้วครับ ยิ่งถ้าเรากำลังคุยกับบาร์เทนเดอร์อยู่ก่อนด้วย บาร์เทนเดอร์ที่ดีจะพยายามสร้างบทสนทนาให้เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีของลูกค้าในบาร์ช่วยเราอีกแรง หรือในบางกรณีคนบางคนที่ได้ยินบทสนทนาของเราก็อาจโดดเข้ามาร่วมวงสนทนาด้วยเลยก็มีครับ
ผู้เขียนเคยมีประสบการณ์ไปนั่งในบาร์ประเทศญี่ปุ่นคนเดียว แล้วมีคนต่างชาติมาดื่มคนเดียว เขาพูดญี่ปุ่นคล่องมากจนบาร์เทนเดอร์และลูกค้าที่นั่งอยู่ตรงเคาร์เตอร์คนอื่นแปลกใจ เขาบอกว่ามาจากบราซิล คนญี่ปุ่นก็เลยพยายามพูดคำทักทายภาษาบราซิลซึ่งยังไม่มีใครพูดถูก ผู้เขียนพูดภาษาโปรตุกีส (ภาษาประจำชาติของบราซิล) พอได้ เลยโดดเข้าร่วมวงสนทนา จบลงที่คืนนั้นผู้เขียนนั่งดื่มนั่งคุยกับเขาจนบาร์ปิด
ถ้าใช่ก็กลับมาอีก แต่การไปลองบาร์ใหม่ ๆ ก็สนุกเหมือนกัน
ถ้าหากเราเจอบาร์ที่ถูกใจ Vibes ตรงกัน การกลับมาอีกเรื่อย ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แถมยังทำให้เราได้เจอกับคนที่มีความชอบเหมือนกัน เจอคนหน้าเดิม ๆ ได้สนทนากัน ได้สนิทกับบาร์เทนเดอร์ (และอาจได้รับการบริการที่ดีขึ้น ถ้าบาร์เทนเดอร์ชอบเรา) เกิดเป็นกลุ่ม Community ใหม่ เป็นสังคมเล็ก ๆ ที่อบอุ่น
ในขณะเดียวกัน การเสาะหาบาร์ใหม่ ๆ ก็เป็นเรื่องน่าสนุกเช่นกัน เพราะมันทำให้เราได้เจอผู้คนใหม่ ๆ ที่มีความชอบคล้ายกับเรา แต่อาจจะถูกใจบาร์อีกแห่งมากกว่า หรืออยู่ใกล้บาร์อีกแห่งมากกว่า ทำให้เราไม่มีโอกาสได้เจอในบาร์โปรดของเรา ดังนั้นการกลับไปบาร์เดิมซ้ำ ๆ หรือเสาะแสวงหาบาร์ใหม่ก็อยู่ที่ความชอบของเราเลยครับ
เราเชื่อว่าคู่มือการไปบาร์คนเดียวของเราในบทความนี้ จะทำให้ความคิดในการไปนั่งดื่มคนเดียวของหลาย ๆ คนเปลี่ยนไป จากการไปนั่งเหงา ๆ ไม่มีคนไปด้วย กลายเป็นการไปพบเจอคนใหม่ ๆ เกิดบทสนทนาใหม่ ๆ และอาจทำให้เราได้เจอกับความสัมพันธ์ใหม่ ๆ รู้จักคนในท้องที่นั้นดีขึ้น หากใครที่ชวนเพื่อนไปดื่มแล้วไม่มีคนไปด้วย หรือได้เดินทางไปเมืองใหม่ ๆ ลองไปนั่งดื่มคนเดียวดูนะครับ อาจมีการพบพานที่แสนพิเศษรออยู่ก็เป็นได้