MINI ประเทศไทย เปิดตัว รถ MINI รุ่นใหม่พร้อมกันที่เดียวถึง 4 รุ่น ถือเป็นการเดินหน้าเข้าสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ พร้อมลุยในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไทย โดยรถรุ่นใหม่นี้ถือเป็นเจเนอเรชันที่ 5 ที่ครบเครื่องทั้งความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดีไซน์สไตล์มินิมอลที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล และสมรรถนะการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ พร้อมด้วยราคาที่ถือว่าน่าดึงดูด นำทัพมาด้วย New MINI Cooper SE และยังมีการเปิดตัวรถที่เป็นเซอร์ไพรส์อย่าง New MINI Aceman SE ด้วย
สำหรับรถทั้ง 4 รุ่นที่เปิดตัวไป จะมีรุ่นไหน และแต่ละรุ่นมีอะไรน่าสนใจบ้าง MenDetails ได้สรุปออกมาแบบเข้าใจง่ายให้อ่านกันในบทความนี้ครับ
New MINI Cooper SE ที่ยังคงเอกลักษณ์ รถ MINI ไว้ครบถ้วน
กลับมาคราวนี้ในฐานะ รถเจเนอเรชันที่ 5 ที่นำดีไซน์ที่สะท้อนความเป็น MINI ดั้งเดิม มาผสมผสานเข้านวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า 100% กับเทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่างลงตัว ต่อยอดประสบการณ์การขับขี่แบบ “Electrified Go-Kart” มาในรูปลักษณ์มินิมอล ที่ให้ความรู้สึกสนุกสนาน และนวัตกรรมที่ฉลาดยิ่งขึ้นสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
ดีไซน์ของรถคันนี้ออกแบบใหม่ตามแนวคิด “ความเรียบง่ายอันทรงเสน่ห์” ที่รักษาองค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของ MINI เอาไว้อย่างครบถ้วน ทั้งส่วนหน้ารถที่สั้น ฐานล้อยาว และล้อขนาดใหญ่ที่เติมบุคลิกความสปอร์ตแบบเต็มพิกัด ด้านหน้าของรถโดดเด่นด้วยไฟหน้าทรงกลมที่เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ และยังสามารถสร้างสีสันที่สะท้อนสไตล์และตัวตนของผู้ขับขี่ได้เด่นชัดยิ่งกว่าเดิมด้วยโหมดไฟซิกเนเจอร์ที่มีให้เลือก 3 รูปแบบ
ในส่วนห้องโดยสารก็คำนึงถึงความเรียบง่ายและความยั่งยืนคู่กัน โดยทั้งแผงหน้าปัด แผงประตู และฝาปิดช่องเก็บของต่าง ๆ ภายในรถล้วนผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์รีไซเคิล 90% ส่วนเบาะนั่งสไตล์สปอร์ตยังคงความหรูหราและนุ่มสบายด้วย Vescin เป็นวัสดุหนังสังเคราะห์แบบใหม่ที่นำมาใช้แทนหนังจริง
หนึ่งในลูกเล่นที่น่าสนใจที่สุดของ New MINI Cooper SE คือ หน้าจอ MINI Interaction Unit ทรงกลมขนาดใหญ่ที่แผงคอนโซลด้านหน้า เป็นจอแสดงผล OLED ความละเอียดสูง โดยส่วนบนของหน้าจอจะเป็นพื้นที่แสดงข้อมูลสำคัญของตัวรถ ในขณะที่ส่วนที่เหลือของจอยังสามารถปรับเปลี่ยนให้แสดงข้อมูลการนำทาง เพลงและความบันเทิงอื่น ๆ รวมถึงฟีเจอร์ด้านการเชื่อมต่อต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ระบบ Head-up Display ก็ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นข้อมูลสำคัญของตัวรถได้โดยไม่ต้องละสายตาจากท้องถนนอีกด้วย หน้าจอนี้ยังถือเป็นหัวใจสำคัญของโหมดการใช้งาน MINI Experience ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยปรับแต่งประสบการณ์การขับขี่ และเติมสีสันให้กับทุกเส้นทางได้ตามใจชอบ ด้วย 7 โหมดที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันไป
ด้านสมรรถนะ New MINI Cooper SE ขับเคลื่อนด้วยขุมกำลังระบบไฟฟ้ารุ่นล่าสุดที่ผ่านการเสริมสมรรถนะมาอย่างรอบด้าน ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 6.7 วินาที มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้มีความคล่องตัวมากขึ้น คงไว้ซึ่งสไตล์การขับขี่แบบโกคาร์ทไว้ได้อย่างครบถ้วน
แบตเตอรี่สามารถชาร์จจาก 10% ถึง 80% ในเวลาไม่ถึง 30 นาที และวิ่งได้ไกลสูงสุด 402 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เป็นการยกระดับด้านระยะทางมากขึ้นจากรุ่นที่แล้วเท่าตัว
New MINI Cooper SE เปิดราคามาถือว่าน่าสนใจ อยู่ที่ 1,699,000 บาท พร้อมแพ็คเกจ MSI Standard โดยมี 6 สีให้เลือก ได้แก่ Blazing Blue, Nanuq White, Melting Silver ที่มาพร้อมกับหลังคาสีดำ Jetblack และ British Racing Green, Sunny Side Yellow, Chili Red II ที่ให้ลูกค้าเลือกหลังคาดำ Jetblack หรือสีขาว Glazed White
New MINI Countryman SE โฉมใหม่ พร้อมลุย
New MINI Countryman SE เป็นรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกของตระกูล Countryman มาพร้อมกับเอกลักษณ์ด้านการออกแบบใหม่ ในปรัชญาเดียวกับ New MINI Cooper SE เพิ่มเติมคือการผสานความโดดเด่นของรถยนต์แบบออฟโรดอเนกประสงค์ รถยนต์สำหรับครอบครัว และความสนุกสนานของประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้มลพิษเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัวในคันเดียว
New MINI Countryman SE สืบทอดบุคลิกที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยด้วยพื้นผิวตัวถังที่เฉียบคม แต่ยังคงกลิ่นอายขององค์ประกอบด้านการออกแบบสุดคลาสสิกของ MINI ไว้ครบถ้วน โดดเด่นด้วยกระจังหน้ารูปทรงแปดเหลี่ยมดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟหน้า LED และระบบปรับเปลี่ยนรูปแบบแสงไฟตามโหมด Signature ต่าง ๆ หลังคาในสีใหม่ Vibrant Silver แต่คันที่เอามาเปิดตัวให้สื่อดู สีหลังคาจะยังไม่ใช่สีที่วางขายในไทยครับ
ภายในรถ ใช้ปรัชญาการออกแบบไม่ต่างจาก New MINI Cooper SE และมาพร้อมองค์ประกอบหลักและฟีเจอร์ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผล OLED ทรงกลม MINI Interaction Unit ไปจนถึงระบบช่วยขับขี่ต่าง ๆ ส่วนโหมดการใช้งาน MINI Experience ที่มีอีกหนึ่งโหมดพิเศษเพิ่มมาจาก 7 โหมดของ New MINI Cooper SE คือ โหมด Trail ที่เน้นความเร้าใจสำหรับสายแอดเวนเจอร์
สมรรถนะของ New MINI Countryman SE ใข้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ ALL4 ที่สามารถเร่งถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 5.6 วินาที และยังทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีระยะทางขับขี่สูงสุดถึง 432 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
คันนี้เปิดราคาที่ 3,399,000 บาท พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
New MINI John Works Countryman ใหญ่ที่สุดของ รถ MINI
สำหรับ New MINI John Works Countryman นั้น ทาง MINI นำเข้ามาขายในไทยเพียงแค่ 5 คันเท่านั้น เป็นรุ่นพิเศษสำหรับใครที่ชื่นชอบและอยากครอบครอง
นี่เป็นรถ MINI ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด แม้จะน่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่ใช่รถไฟฟ้า แต่ก็เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณสปอร์ต พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการขับบนท้องถนนหรือเส้นทางออฟโรด สามารถทำความความเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 5.4 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
New MINI John Works Countryman ที่ขายในไทยมาพร้อมสีตัวถังสีพิเศษ Legend Grey ซึ่งตัดกันอย่างโดดเด่นกับหลังคาสีแดง Chili Red ที่มาพร้อมกระจก Panorama และกระจกมองข้างสีแดงที่บ่งบอกถึงคาแรคเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ ท้ายรถยังมาพร้อมกับไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ในโหมด JCW Signature
ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้รู้สึกถึงความกว้างขวาง ตกแต่งด้วยสีแดงและสีดำบริเวณคอนโซล แผงประตู และเบาะนั่งแบบสปอร์ต ที่หุ้มด้วยหนังวีแกน Vescin และเนื้อผ้า ผสมผสานกันออกมาอย่างลงตัวและสะท้อนถึงจิตวิญญาณรถแข่ง ส่วนอุปกรณ์แำนวยความสะดวก และระบบช่วยขับขี่ไม่ได้ต่างจาก New MINI Countryman SE เท่าไหร่นัก
ด้านราคาของ New MINI John Works Countryman อยู่ที่ 3,999,000 บาท พร้อมแพ็คเกจบำรุงรักษา MSI Standard 3 ปี หรือ 60,000 กม.
New MINI Aceman SE เซอร์ไพรส์ส่งท้าย
ปิดท้ายด้วยคันที่เป็นเซอร์ไพรส์ส่งท้ายที่ MINI ประเทศไทยเอามาเปิดตัวด้วย นั่นคือ New MINI Aceman SE รถยนต์ครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้า 100% ขนาดกะทัดรัดที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อความคล่องตัวในการใช้ขับขี่ภายในเมือง เพื่อมารองรับความต้องการของลูกค้าที่อยากได้รถที่ใหญ่ขึ้นจาก New MINI Cooper SE แต่ไม่อยากไปถึง New MINI Countryman SE
New MINI Aceman SE สามารถเร่งความเร็วถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ได้ภายในเวลา 7.1 วินาที ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีระยะทางขับขี่สูงสุดที่ 405 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
สำหรับรถรุ่นนี้รายละเอียดเพิ่มเติมรวมถึงราคาอย่างเป็นทางการทั่วโลกยังไม่มีประกาศ แต่ทาง MINI ประเทศไทยก็เอามายั่วให้เราได้เห็นหน้าตาของมันแบบจริง ๆ กันก่อนครับ
ถือว่าเป็นการแสดงความพร้อมในการบุกตลาดประเทศไทยแบบจัดเต็ม ทั้งในเรื่องของความหลากหลายของประเภทรถ ราคาที่ถูกลงกว่าเดิม และการออกแบบใหม่ที่คงเอกลักษณ์ดั้งเดิมแต่เพิ่มลูกเล่นใหม่ ๆ ให้ความรู้สึกทันสมัย ทำให้เราเชื่อว่า MINI จะเข้ามาเพิ่มความหลากหลายและเป็นทางเลือกให้ให้กับคนที่มองหารถสักคันในปีนี้ครับ