หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่ติดตาม MenDetails มาโดยตลอด จะพอทราบครับว่า พวกเราชื่นชอบการเลือกซื้อเสื้อผ้า ที่เน้นกระบวนการผลิตที่ยอดเยี่ยม บวกกับเสื้อผ้าที่ตัดเย็บมาอย่างปราณีต และต้องสวมใส่ได้นาน ไม่ว่าจะเป็น Style ใดก็ตาม อย่างน้อย ๆ ต้องมีความคงทนที่คุ้มต่อการเลือกซื้อมาสวมใส่ในชีวิตประจำวัน และถ้าคุณเลือกซื้อตามพวกเรามาบ้าง ไม่มากก็น้อย เชื่อว่า เสื้อผ้า ของคุณเอง จะต้องมีมากล้นอยู่ในตู้เสื้อผ้าอย่างแน่นอน ดังนั้น MenDetails จึงขอเชิญชวนทุกท่าน มาเริ่มต้น ดูแล เสื้อผ้า ของตัวเอง ให้สามารถอยู่กับเราไปได้นานขึ้น ใส่ได้บ่อยขึ้น และอาจกลายเป็นชิ้นโปรดที่จะได้หยิบมาสวมใส่ในปีถัด ๆ ไป ว่าแล้วก็ ตามพวกเรามาเลยครับ
Shirts
เสื้อเชิ้ต ถือเป็นเสื้อผ้าชิ้นสำคัญของใครหลาย ๆ คน และแน่นอนว่า การดูแลรักษาก็สำคัญไม่แพ้กับการเลือกซื้อเช่นกัน ถึงแม้ว่ารายละเอียดอาจจะไม่ได้มี Details จุกจิกเหมือนก่อนการเลือกซื้อ แต่อยากให้ทุกท่านใส่ใจอีกสักนิด เสื้อผ้าจะได้อยู่กับเราได้นานขึ้นนั่นเอง เริ่มต้นจาก การปลดกระดุมออกให้ครบทุกเม็ดก่อนการซักทุกครั้ง หลาย ๆ ท่านอาจหลงลืมในจุดนี้ และนั่นไม่ใช่ผลดีต่อกระดุม เพราะอาจถูกรั้งในการซักด้วยเครื่อง / ควรแยกเสื้อผ้าสีและผ้าขาวออกจากกันเวลาซัก เนื่องจากทั้ง 2 กรณี มีน้ำยาในการซักไม่เหมือนกัน สีสว่างเราอาจเลือกใช้น้ำยาซักผ้าขาวเพื่อให้ผ้ายังคงความสว่างอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเอาน้ำยาดังกล่าว ไปซักกับผ้าสีเข้ม อาจทำให้ผ้าดูหมองและ Fade ได้นั่นเอง / เลือกซักกับน้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิปกติเป็นหลัก จะช่วยให้ทรงของเสื้อไม่เปลี่ยนไปครับ / ฝึกรีดผ้าให้คอปกตั้งและตัวผ้าไปไหลมากองรวมกันที่ปลายปกนะครับ / ไม่ควรพับเสื้อเชิ้ต แนะนำให้แขวนเป็นหลัก และจะดีที่สุดเมื่อแขวนด้วยไม้แขวนแบบมีไหล่ (คล้ายไม้แขวนสูท)
Suits
สำหรับชุดสูท ซึ่งอาจหมายถึงเสื้อผ้าที่เราตั้งใจลงทุน ด้วยจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูง จากห้องเสื้อคุณภาพ ซึ่งมาพร้อมงานมือและรายละเอียดต่าง ๆ มากมายในตัวเสื้อดังกล่าว การดูแลรักษาจึงมีหลัก ๆ เพียงไม่กี่เรื่องเท่านั้นครับ นั่นก็คือ เริ่มต้นจากการแขวนเสื้อสูทด้วยไม้แขวนสูทเท่านั้น การแขวนด้วยไม้แขวนเล็ก ๆ อาจดูประหยัดพื้นที่จริง แต่สุดท้ายจะทำลายโครงสร้างของช่วงไหล่ ทำให้สูทเสียรูปไปเลยก็มี / ไม่ควรส่งซักแห้งบ่อยนัก อย่างมากสุดคือปีละ 1 ครั้งเท่านั้น เพราะสารเคมีต่าง ๆ จะไปทำลายเสื้อใยคุณภาพสูงของเนื้อผ้านั่นเอง / หากจำเป็นต้องส่งซักแห้ง ควรส่งไปคู่กันเลยครับ ทั้งเสื้อและกางเกง สีจะได้เหมือนกันตลอดนั่นเอง / ห้ามรีด Lapel นะครับ แนะนำให้ใช้เครื่องรีดไอน้ำ หรือดีที่สุดคือให้ช่างที่ตัดชุดสูทเป็นคนรีดให้จะดีที่สุด เพราะการรีด คือการขึ้น Shape และ Form ของชุดสูทชุดนั้น ๆ เลยก็ว่าได้ / พยายามอย่าใส่ชุดสูทตัวเดิมซ้ำเกิน 2 วันติดต่อกัน เพราะความชื้นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้โครงสร้างผ้าเสื่อมลงนั่นเอง
Jeans
สำหรับกางเกงยีนส์ ถือเป็นเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งที่ดูแลง่ายอันดับต้น ๆ เลยครับ เนื่องจาก “กางเกงยีนส์ต้องการการดูแลที่น้อยมาก ๆ” ทว่าต้องได้รับการดูแลอย่างถูกวิธีด้วยเช่นกัน เริ่มต้นจาก แนะนำให้ซักบ่อยหน่อยครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าต้องซักทุกครั้งหลังสวมใส่นะครับ แต่แนะนำให้หยิบมาซักบ้างสักอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งวิธีการก็ไม่ได้ยาก เพียงหยิบมาแช่น้ำสัก 30-45 นาที ก่อนนำไปกลับด้านตากแดดนั่นเอง เนื่องจาก ผ้า Cotton จะแข็งแรงมากยิ่งขึ้นหลักจากโดนน้ำ เพราะจะหดตัวลงเล็กน้อย ดังนั้น แนะนำให้แช่บ่อย ๆ ครับผม / เวลาตากแดด แนะนำอย่าตากให้โดนแดดโดยตรง และควรกลับด้านตากทุกครั้งนะครับ / หากขาดให้หาร้านซ่อม และซ่อมให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่กางเกงยีนส์จะสวยที่สุด ดูดีที่สุด ก่อนจะอำลาจากตู้เสื้อผ้าของพวกเราไป / ห้ามลงเครื่องซักเด็ดขาด (สำหรับกางเกงยีนส์ผ้าดิบ) โดยเฉพาะเครื่องซักผ้าแบบฝาบน / หลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอก หากกางเกงไม่ได้สกปรกขนาดหนักหรือมีกลิ่นจนทนไม่ไหวนะครับ
Watches
สำหรับนาฬิกา แนะนำให้หยิบวนมาสวมใส่บ้างครับ เพื่อให้น้ำมันยังคงหมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่า การวางนาฬิกาไว้นิ่ง ๆ ในตำแหน่งใดนาน ๆ อาจทำให้กลไกต่าง ๆ เสียหายได้ตามกาลเวลา เนื่องจากน้ำมันไม่ได้ไปหล่อลื่นอย่างทั่วถึงนั่นเอง และถ้ามีชิ้นส่วนใดเสียหายแล้วนั่น อาจส่งผลกระทบต่อเนื่องไปยังชิ้นส่วนอื่น ๆ ได้โดยตรง จึงควรหยิบเอานาฬิกาเรือนโปรดไปเช็คสภาพทุก ๆ 2-4 ปี ระหว่างนี้ก็ หยิบเอานาฬิกาเรือนโปรดต่าง ๆ ของคุณมาขึ้นลานดูบ้างครับ ลองฟังเสียงของเครื่องและความแม่นยำในการเดินดู เพื่อจะพอทราบเบื้องต้นได้อย่างรวดเร็วว่า นาฬิกาเสื่อมสภาพแล้วหรือยัง
Shoes
ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องแต่งกาย ที่ต้องดูแลเขาให้ดีตั้งแต่แรกเริ่มเลยครับ แล้วเขาจะอยู่กับเราได้นานเกินคาดแน่นอน เริ่มต้นจากการติดพื้นยางหรือ Rubber Sole หลังจากสวมใส่ได้สักพักหนึ่ง เพื่อป้องกันน้ำที่จะทำลายพื้นหนังชั้น Outsole หากเดินไปเจอน้ำ หรือต้องเผชิญกับฝนโปรย / ติด Toe Plate หรือแผ่นโลหะที่บริเวณปลายรองเท้า เพื่อช่วยยืดระยะในการสวมใส่ เพราะถือเป็นจุดที่สึกง่ายที่สุดจากการเดินนั่นเอง / หยิบออกมาปัดทำความสะอาดสัก 2 เดือนครั้งเป็นอย่างน้อย ใช้แปรงขนม้าปัดสิ่งสกปรกออก และนำไปตากแดดสัก 5-10 นาที เพื่อช่วยเรื่องความชื่นและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ / ใส่ Shoe Tree หลักจากสวมใส่ทุกครั้ง / หากโดนฝนจนรองเท้าเปียก แนะนำให้รีบเอาผ้าซับน้ำให้ได้มากที่สุด ยัดด้านในด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ และทำความสะอาดคราบต่าง ๆ ทันที พอเริ่มแห้งให้ใส่ Shoe Tree เพื่อดันทรง และบำรุงรักษาหนังตามขั้นตอน แต่ถ้ายากเกินไป แนะนำส่งร้านซ่อมรองเท้าที่ไว้ใจได้จะดีที่สุดครับ
นี่คือพื้นฐานเบื้องต้นที่ทุกท่านควรเรียนรู้ไว้บ้าง อาจไม่ใช่ขั้นตอนที่ครบเครื่องแต่เชื่อเราเถอะครับว่า ถ้าคุณเริ่มต้น ดูแล เสื้อผ้าตามที่เรานำเสนอไว้ข้างต้น เสื้อผ้า ชิ้นโปรดของคุณ จะต้องอยู่กับคุณไปได้อีกนานแน่นอน ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากให้ทุกท่านมองหาร้านซักแห้ง หรือร้านซ่อมรองเท้าที่อยู่ใกล้บ้านท่านไว้ด้วยก็ดีนะครับ เพราะอาจเป็นอีกหนึ่งแห่งที่คุณต้องไปใช้บริการบ่อยขึ้นในปีนี้แน่นอน ว่าแล้วก็ หยิบเอาเสื้อผ้ามาใส่วนกัน และหมั่น ดูแล รักษา เสื้อผ้าตัวโปรดของคุณด้วยนะครับ