เคยคิดเหมือนกันมั้ยครับว่าเวลาดูหนังหลาย ๆ เรื่อง ทำไมพวกตัวร้ายมันถึงดูเท่ โดดเด่น มีเสน่ห์ จนบางครั้งกลับน่าจดจำกว่าพวกตัวเอกซะอีก ความรู้สึกพวกนี้ส่วนหนึ่งมาจากการแต่งกายของตัวร้ายที่มีเอกลักษณ์และบางทีก็กล้าแหกกฎอย่างมีชั้นเชิง วันนี้ MenDetails จะมาพูดถึงแนวคิด “Dress Like a Villain” หรือการแต่งกายแบบ “ตัวร้าย” ที่มีเสน่ห์ มีอัตลักษณ์ และที่สำคัญคือกล้าแหกกฎเกณฑ์เดิม ๆ ลองมาดู 5 ตัวร้ายจากโลกภาพยนตร์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าเสื้อผ้าก็มีพลังไม่ต่างจากบุคลิกของพวกเขาในหนัง
Hannibal Lecter เวอร์ชัน Mads Mikkelsen
Hannibal Lecter เวอร์ชัน Mads Mikkelsen ไม่ได้ใส่ชุดนักโทษพร้อมหน้ากากสุดโรคจิตเหมือนอย่างในยุคของ Anthony Hopkins แต่กลับมาในลุคสุดเนี้ยบที่ทั้งเรียบหรู เย็นยะเยือก และดูน่าเกรงขาม บวกกับสีหน้าและแววตาของเขาที่แค่มองนิ่ง ๆ ก็ทำให้คนกลัวได้ เขามักมาพร้อมสูทลายตารางที่พอดีตัวและเลือกใช้เฉดสีโทนเข้มที่ไม่ฉูดฉาดแต่เต็มไปด้วยดีเทลและเฉียบคมพอ ๆ กับคำพูดของเขา
สิ่งที่ทำให้ลุคของ Hannibal Lecter เวอร์ชัน Mads Mikkelsen น่าจดจำคือความขัดแย้งระหว่างภาพลักษณ์กับเนื้อใน คนแต่งตัวดีมักถูกมองว่าน่าเชื่อถือ แต่กับ Hannibal มันคือหน้ากากที่ปกปิดความน่าขนลุกไว้ภายใน เขาไม่ได้แค่แต่งตัวดี แต่เข้าใจเสื้อผ้าในฐานะอาวุธชิ้นหนึ่งที่สามารถลวงให้เหยื่อตายใจก่อนจะสังหารอย่างเลือดเย็น
Bane (The Dark Knight Rises)
Bane จาก The Dark Knight Rises คือตัวร้ายสายดิบที่ไม่เล่นตามเกมใคร เขาไม่ใส่สูท ไม่มีความเนี้ยบอะไรเลย แต่งตัวเหมือนไม่แคร์โลกแต่ทั้งโลกจำเขาได้หมด Bane มักปรากฏตัวพร้อมเสื้อคลุมทหารหนา ๆ สวมหน้ากากเหล็ก พร้อมลุคแกร่งแบบพร้อมบวกตลอดเวลา แต่ทุกอย่างที่เขาสวมใส่คือการสื่อสารอย่างชัดเจนว่า “ข้าไม่แคร์แฟชั่น ข้าสนแต่พลังและอำนาจ”
สิ่งที่ทำให้ลุคของ Bane เป็นที่จดจำของทุกคนคือเขากล้าแหกขนบการแต่งตัวของวายร้ายแบบเดิม ๆ และพึ่งพารูปร่าง + บุคลิกที่แข็งแกร่งของตัวเองมากกว่าเครื่องประดับบนร่างกาย เสื้อผ้าของ Bane จึงไม่ใช่แฟชั่นแต่มันคือการแสดงจุดยืนของเขาได้แบบชัดเจนที่สุด แนวคิดนี้บ่งบอกว่าการแต่งตัวให้ดูหนักแน่น ไม่จำเป็นต้องใส่สูทแต่มันอยู่ที่ความมั่นใจในสิ่งที่สวมใส่อยู่
Patrick Bateman (American Psycho)
Patrick Bateman คือหนุ่มออฟฟิศย่าน Wall Street ผู้มั่งคั่งและชื่นชอบความหรูหราฟุ่มเฟือย เขามักปรากฎตัวพร้อมชุดสูทคลาสสิกขนาดพอดีตัว พร้อมดีเทลเสื้อเชิ้ตขาวรีดเป๊ะ ผูกเนกไทเรียบร้อย และทรงผม Slick back สุดเนี้ยบ ทุกอย่างดูสมบูรณ์แบบจนผิดปกติ แต่นั่นแหละคือเสน่ห์ของตัวละครนี้ที่กลายมาเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจในการแต่งตัวของผู้ชายหลายคนทั่วโลก
สิ่งที่ทำให้ลุคการแต่งกายของ Patrick Bateman น่าสนใจคือการเล่นกับภาพจำของชายผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วบิดมันด้วยพฤติกรรมเบื้องหลังสุดโต่ง เสื้อผ้าและการแต่งกายของเขาจึงไม่ได้เป็นแค่เครื่องแต่งกายธรรมดาทั่วไป แต่คือภาพลวงตาที่ปกปิดตัวตนสุดอำมหิตไว้ภายใน
Joker เวอร์ชัน Joaquin Phoenix
สีสัน ความบ้า และความกล้าที่จะหลุด คือนิยามของการแต่งตัวแบบ Joker ในเวอร์ชันของ Joaquin Phoenix นี่คือวายร้ายที่แต่งตัวแบบไม่แคร์สายตาใคร ภาพจำของเขาคือสูทสีแดงสด เสื้อกั๊กสีส้ม และเชิ้ตตัวในสีเขียว ซึ่งเป็นคู่สีที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้ากัน แต่มันกลับเวิร์กเพราะสามารถสื่อสารถึงพลัง ความอัดอั้น ความเศร้าหมอง ความแค้น และการหลุดพ้นจากระบบสังคมที่กดทับเขามานานได้เป็นอย่างดี
สิ่งที่ทำให้ลุคของ Joker เวอร์ชันนี้น่าจดจำคือมันตรงข้ามกับความเท่แบบสำเร็จรูปที่เราคุ้นชินกับตัวเอกหรือวายร้ายจากหนังหลายเรื่อง เขาไม่ได้แค่แต่งตัวฉูดฉาดเพราะอยากเด่นหรือเรียกร้องความสนใจ แต่ใช้สีและรูปทรงเป็นเครื่องมือในการปลดปล่อยตัวตนออกมาในแบบที่ไม่มีใครเขาทำกัน
Loki
Loki ไม่เคยแต่งตัวธรรมดาเพราะเขารู้ว่าตัวเองมีเสน่ห์และไม่ต้องการเก็บซ่อนมันไว้ ไม่ว่าจะในชุดเทพเจ้าหรือในสูทลำลองสุดเนี้ยบเวลามาเยือนโลก การแต่งตัวของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกของคนเจ้าเล่ห์ที่มีอะไรบางอย่างปกปิดอยู่ในใจ การปรากฏตัวในเสื้อผ้าโทนสีเขียวเข้ม ทอง และดำ คือโทนของความลึกลับและอำนาจแบบไม่ต้องเบ่งกล้าม
สิ่งที่ทำให้การแต่งตัวของ Loki น่าสนใจคือการผสมผสานระหว่างความดาร์กของตัวร้ายที่มีพลังมหาศาลกับความเนี้ยบอย่างมีชั้นเชิงแบบมนุษย์ทั่วไปเพื่อปกปิดความร้ายกาจที่ซ่อนอยู่ แนวคิดนี้สามารถนำไปปรับใช้กับการแต่งตัวให้ดูเผิน ๆ เหมือนไม่มีอะไร แต่ก็สามารถโชว์ความเท่บางอย่างออกมาได้ในเวลาที่ต้องการ
แนวคิดการแต่งตัวแบบตัวร้ายไม่ใช่การแต่งให้ดูร้ายในสายตาของคนอื่น แต่คือการกล้าเป็นตัวเองในแบบที่คนอื่นไม่กล้าเป็น สิ่งที่ตัวร้ายทุกคนมีเหมือนกันคือเขาไม่ได้พยายามจะทำให้คนมารักแต่เขาแค่ทำให้คนอื่นจดจำ และเสื้อผ้าก็เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้คนอื่นจดจำคุณได้เช่นกัน แค่แต่งตัวในแบบที่รู้จักและมั่นใจในตัวเอง กล้าแหกกฎอย่างมีชั้นเชิง แค่นี้ก็จะทำให้คุณเป็นผู้ชายพิเศษขึ้นกว่าเดิมได้แล้วครับ