ในโลกของการแต่งกายแบบทางการและกึ่งทางการ เสื้อสูท หรือ สปอร์ตแจ็คเก็ต ถือเป็นหนึ่งในเครื่องแต่งกายชิ้นสำคัญที่สุดของผู้ชายในการสร้างสไตล์ที่ดูดีและเหมาะสมกับกาลเทศะ ไม่ว่าจะเป็นการไปทำงานในออฟฟิศ, งานเลี้ยงสังสรรค์ หรือแม้แต่การไปเที่ยวแบบสบาย ๆ การเลือกสไตล์ของเสื้อแจ็คเก็ตที่เหมาะสมกับการใช้งานจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
และในบทความนี้ MenDetails จะขอพูดถึงความแตกต่างระหว่างเสื้อแจ็คเก็ตแบบ Single-breasted และ Double-breasted ซึ่งเป็นสองสไตล์เสื้อแจ็คเก็ตที่ผู้ชายทุกคนควรรู้จัก ซึ่งชุดสูทและแจ็คเก็ตที่เรานำมาให้ชมกันในบทความนี้มาจาก Sartoria Raffaniello ช่างตัดสูทชาวญี่ปุ่นที่จะแวะเวียนมาตัดสูทให้ลูกค้าชาวไทยที่ร้าน The Decorum เป็นประจำ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าสไตล์ไหนที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และการใช้งานของคุณมากกว่ากัน หรือไม่ก็อาจตัดสินใจมีให้ครบทั้งสองแบบไปเลยก็ยิ่งดีนะครับ
Single-breasted เรียบง่ายไม่มีตกยุค
เสื้อแจ็คเก็ตแบบ Single-breasted คือสไตล์ที่เราคุ้นเคยกันมากที่สุด มีลักษณะการติดกระดุมเป็นแถวเดียวอยู่ด้านหน้า โดยทั่วไปจะมีกระดุม 1 ถึง 3 เม็ด มีกระเป๋าตรงอกเสื้อ 1 ช่อง และมีกระเป๋าบริเวณเอวด้านหน้า 2 ข้าง
ข้อดีของเสื้อแบบกระดุมแถวเดียวคือการที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย (Versatility) ใส่ได้แทบทุกโอกาส ตั้งแต่การประชุมทางธุรกิจที่ต้องการความน่าเชื่อถือ ไปจนถึงงานเลี้ยงที่ไม่เป็นทางการมากนัก ด้วยความเรียบง่ายของมันทำให้สามารถจับคู่กับเสื้อเชิ้ต, เนคไท และกางเกงได้หลากหลายสไตล์ อีกทั้งเสื้อแจ็คเก็ตแบบนี้ใช้งานได้เรียบง่ายกว่า เพราะมีกระดุมไม่เยอะ สามารถถอดเข้าออกได้สะดวกกว่าแบบ Double-Breasted
อีกหนึ่งจุดเด่นคือการมีกระดุมแถวเดียวทำให้เส้นนำสายตาช่วงกลางลำตัวนั้นเป็นเส้นเดียวและตั้งตรงจากบนลงล่าง ส่งผลให้ช่วงตัวดูยาวและเพรียวขึ้น (Slenderizing) จึงเหมาะสำหรับรูปร่างสรีระผู้ชายแทบทุกแบบ
ด้วยความคลาสสิคและเรียบง่าย ทำให้ Single-Breasted เหมาะสำหรับการใช้งานได้แทบทุกโอกาส ไม่ว่าจะใส่เป็น Business Suit สีกรมท่าก็ถือเป็น “มาตรฐาน” สำหรับชุดทำงานที่สุภาพและเป็นทางการ หรือจะแยกชิ้นเป็น Sport Jacket จับคู่กับกางเกงสีอื่น ๆ อย่างสีเทา, สีน้ำตาล ก็เข้าท่า และถ้าชอบผ้าที่ลำลองขึ้นมาอีกนิดอย่างลินิน การตัดสูทผ้าดังกล่าวเป็นแบบ Single-Breasted ก็ดูจะใช้งานได้หลากหลายกว่าเมื่อเทียบกันหมัดต่อหมัดกับ Double-Breasted
Double-breasted โดดเด่นประทับใจยิ่งขึ้น
ข้ามมาที่อีกหนึ่งตัวเลือกคือ เสื้อแจ็คเก็ตแบบ Double-breasted มีลักษณะการติดกระดุมเป็นสองแถว โดยมีส่วนของผ้าที่ซ้อนทับกันอยู่ด้านหน้า ส่วนใหญ่จะโชว์กระดุมด้านนอกตั้งแต่ 2, 4 หรือ 6 เม็ด และมักจะมีปกเสื้อสูทที่กว้างกว่าแบบ Single-breasted
จุดเด่นของเสื้อแจ็คเก็ตแบบ Double-breasted หรือ DB อยู่ที่ความโดดเด่นเป็นสง่าที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับเสื้อ Single-breasted สาเหตุส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการที่เสื้อ Double-breasted ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเครื่องแบบทางการของทหารในกองทัพ โดยเฉพาะทหารในยศระดับสูง จึงกลายเป็นเสื้อที่สะท้อนถึงพลังอำนาจมาตั้งแต่เดิม
นอกจากนี้ปกสูทแบบ Peak Lapel ที่มีลักษณะป้านออก อีกทั้งมีการซ้อนทับกันด้านหน้า ทำให้เส้นของปกสูทช่วยนำสายตาให้ไหล่และหน้าอกของผู้สวมใส่ดูผายออกมากขึ้น สะท้อนถึงความสง่าน่าเชื่อถือและดูมีอำนาจยิ่งขึ้นอีกด้วย อีกทั้งเสื้อแบบ Double-Breasted เป็นเสื้อที่มีคนใช้งานในที่สาธารณะน้อยกว่าเสื้อแบบ Single-Breasted นี่จึงทำให้ผู้ชายที่สวมใส่ดูแตกต่าง หรือ Make a Statement มากกว่าคนอื่น ๆ ทั่วไปอีกครึ่งช่วงตัว
ข้อที่ต้องพิจารณาคือ เสื้อแบบ Double-breasted ดูจะมีความยืดหยุ่นในการใช้งานน้อยกว่านิดนึง เป็นเสื้อที่เหมาะสำหรับโอกาสที่เป็นทางการเช่น งานเลี้ยงเชิงพิธีการแบบกาล่าดินเนอร์, การประชุมสำคัญ ๆ หรืองานทางราชการ การจะหยิบนำมาใส่ในชีวิตประจำวันทั่วไปอาจต้องเลือกปรับบางจุดเพิ่มขึ้น เช่น มีจำนวนกระดุมน้อยลง, มีทรงหลวมหน่อย และปกต้องไม่ใหญ่มาก เป็นต้น ซึ่งจะดู “เรื่องเยอะ” กว่า Single-Breasted อยู่เล็กน้อย
นอกจากนี้เสื้อแบบ Double-breasted จะมีขั้นตอนในการกลัดกระดุมที่ยุ่งยากกว่า โดยจะมีกระดุมด้านใน หรือ Anchor Button ที่ต้องกลัดเพื่อรั้งปกเสื้อด้านหนึ่งเอาไว้ แล้วจึงไขว้ปกอีกด้านตามไปกลัดกระดุมข้างนอกด้วย มันจึงเป็นเสื้อที่ค่อนข้างถอดเข้าออกยาก ครั้นจะปลดออกเพื่อเดินไปมาแบบ Single-Breasted ก็อาจจะทำให้รูปทรงโดยรวมดูผิดเพี้ยนไปจากที่ตั้งใจ และปิดท้ายยังต้องพิจารณาเรื่องสรีระของผู้สวมใส่ เนื่องจากเส้นปกและการซ้อนทับของเสื้อที่ทำให้หน้าอกผายขึ้นนั้น อาจทำให้คนที่มีรูปร่างเตี้ยหรือมีน้ำหนักพอสมควรดู “ตัน” มากขึ้นได้ด้วยครับ
SB or DB? สไตล์ไหนที่เหมาะกับเรา
เมื่อได้ลองอ่านข้อสังเกตและจุดเด่นจุดด้อยของทั้งสองแบบแล้ว ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนสำคัญว่าเราจะเลือกเสื้อแบบใดดี ซึ่ง MenDetails อยากให้พิจารณาจากโอกาสที่คุณจะสวมใส่เป็นหลักนะครับ โดยหากคุณกำลังมองหาเสื้อแจ็คเก็ตตัวแรก ที่เรียบง่าย ไม่ต้องโดดเด่นกระแทกตาอะไรมาก และเราสามารถใส่ได้หลายโอกาส แบบนี้ Single-breasted คือตัวเลือกที่ปลอดภัยและคุ้มค่าแน่นอน
แต่หากคุณมีเสื้อแจ็คเก็ตแบบ Single-breasted อยู่แล้ว และต้องการเพิ่มความหลากหลายให้กับตู้เสื้อผ้า เพื่อใช้ในโอกาสพิเศษที่ต้องการความแตกต่างจากคนอื่นเพิ่มขึ้นอีกสักหนึ่งขั้น เสื้อแบบ Double-breasted คือการลงทุนที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะอย่าลืมว่าโดยทั่วไปนั้น DB เป็นเสื้อที่มีคนใส่น้อยกว่าอยู่แล้ว หากเราตัดเสื้อ Double-Breasted ดี ๆ มาใส่ในกลุ่มที่มีแต่คนใส่ Single-Breasted เราก็จะดึงดูดสายตาได้ทันที
แต่ไม่ว่าคุณจะเลือกสไตล์ไหน MenDetails เชื่อว่าสิ่งที่สำคัญคือความมั่นใจของผู้สวมใส่ รวมถึงการเลือกเสื้อแจ็คเก็ตที่ตัดเย็บได้พอดีกับสรีระของเรา (well-tailored) เพราะเสื้อแจ็คเก็ตที่พอดี ไม่เข้ารูปหรือหลวมโคร่งเกินไป ใส่แล้วสบายตัว และช่วยเสริมความมั่นใจในตัวเราให้เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งชุดสูทและแจ็คเก็ตที่เรานำมาให้ชมกันในบทความนี้มาจาก Sartoria Raffaniello ช่างตัดสูทชาวญี่ปุ่นที่จะแวะเวียนมาตัดสูทให้ลูกค้าชาวไทยที่ ร้าน The Decorum เป็นประจำ เพราะเสื้อผ้าที่พอดีตัวใส่แล้วมั่นใจคือหัวใจสำคัญของการแต่งกายแบบ Classic Menswear ที่จะช่วยยกระดับสไตล์ของคุณให้ดูดีและเหมาะสมกับกาลเทศะ แบบที่ผู้ชายที่ใส่ใจในบุคลิกภาพของตัวเองทุกท่านควรทำนะครับ